Thailand Doi Sam Muen, Fully Washed Process, Light Roast
Tasting note: Cape Gooseberry, Milk Chocolate, Sugar Cane, Hint of floral
Country: Thailand
Region: Wiang Haeng, Chiang Mai
Altitude: 1,370 – 1,725 masl.
Varietal : Typica, Bourbon, Catimor, Chiang Mai
Process : Washed
Harvest Period: December – March
Producer: Watthanayothin family X Annie Coffee Roaster
Roast level: Light
จิบแรก คุณจะสังเกตเห็นถึงความโดดเด่นของกรดอ่อนๆและกลิ่นหอมของดอกไม้ แถมยังชวนให้นึกถึงผลไม้เมืองร้อนที่มีรสหวานอมเปรี้ยวที่ไม่ธรรมดาสำหรับกาแฟไทยอีกด้วย เป็นกาแฟที่พิเศษอย่างแท้จริงที่จะตอกย้ำศักยภาพของกาแฟไทย
แอนนี่และทีมงานได้ร่วมมือกับครอบครัว วรรธนะโยธิน ซึ่งปลูกกาแฟมาหลายรุ่น จนมาถึงปัจจุบันโดยมีพี่น้อง 3 คน อาฟุ อาเว่ย อาช่ง ดูแลต่อจากรุ่นพ่อแม่
อาเว่ย หลังจากเรียนผ่านโปรแกรม Q processing Level 2: professional ได้ร่วมมือกับทีมงานแอนนี่ พัฒนาการปลูกกาแฟหลายๆสายพันธุ์ เช่น Geisha, Orange bourbon, Yellow catimor และอื่นๆ มีการแยกแปลงปลูกใหม่เพื่อเป็นกรณีศึกษา และทำโครงการการลดการใช้ปุ๋ยเคมีในสวนดั้งเดิม โดยตั้งเป้าหมายให้เป็นปุ๋ยอินทรย์ 100% เพื่อสร้างระบบนิเวศน์ในระยะยาว ตั้งแต่ปี 2017
กาแฟของที่นี่ให้บอดี้เด่นชัด มีความเป็น Acidity อ่อนๆ มีกลิ่นหอมอ่อนๆคล้ายดอกไม้ มีรสชาติคล้ายผลไม้เมืองร้อน และให้ความรู้สึกหวานยาวนานในตอนท้ายหลังการดื่ม
“Doi Sam Muen Coffee” Pushing the Frontier of Thai Specialty Coffee
Annie Coffee Roaster has collaborated with Watthanayothin family, the processors at Doi Sam Muen, Chiang Mai, whom we have worked with since 2017. At Doi Sam Muen, we also source coffee cherries from over 100 families to be processed at Watthanayothin wet mill, together with our quality control team with the goal to bring the coffee quality up to international specialty standards.
After your first sip, you will notice its distinctive body and light acidity with a floral aroma. Moreover, it will remind you of tropical fruits with lingering sweetness that is not typical for Thai coffee. This is a truly special coffee that will highlight the potential of Thai coffee.
_____________________________________________
* วันคั่วหรือวันผลิตอยู่บริเวณใต้ถุง
** โปรดเก็บเมล็ดกาแฟคั่วไว้ในที่เย็นและแห้ง
ทางแอนนี่คอฟฟี่โรสเตอร์มีความตั้งใจที่จะร่วมรักษาสิ่งแวดล้อม ดังนั้นถุงที่ใส่กาแฟที่เราเลือกจึงเป็นถุงใหม่ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล (100% Recyclabel )
– ถุงผลิตจากพลาสติกรีไซเคิลเบอร์ 4 LDPE หรือ Low Density Polyethylene ซึ่งเป็นพลาสติกที่มีอ่อนนิ่ม มีความหนาแน่นต่ำและโปร่งแสง ย่อยสลายง่าย
– สามารถนำมาใช้ทำถุงใส่กาแฟคั่ว อาหาร ถุงใส่ขนมปัง ถุงเย็นบรรจุอาหาร หรือใช้ห่อของได้ นิยมใช้ในต่างประเทศ และประเทศไทยก็เริ่มใช้กันแพร่หลายมากขึ้น
– หลังใช้เสร็จแล้ว ยังสามารถนำถุงมารีไซเคิล มาทำเป็นถุงเพาะต้นไม้หรือกระเป๋าขนาดเล็กได้ และปัจจุบันจะมีองค์กรต่างๆรับบริจาคถุงในลักษณะนี้ที่เราใช้อยู่ นำไปทำประโยชน์ต่อไป
ถุงขนาด 100- 200 กรัม
: ถุงพลาสติกรีไซเคิล (100% Recyclabel )
: มี one way valve
: มีซิปล็อค
ถุงขนาด 500 กรัม
: ถุงพลาสติกรีไซเคิล (100% Recyclabel )
: มี one way valve
: มีซิปล็อค
ถุงขนาด 1000 กรัม
: ถุงพลาสติกรีไซเคิล (100% Recyclabel )
: มี one way valve
: ไม่มีซิปล็อค
* ระยเวลาในการ Dgas
10 วันหลังคั่ว : กาแฟยังใหม่ แก๊สยังค่อนข้างเยอะ รสชาติและกลิ่นยังออกมาไม่เต็มที่
11 – 30 วันหลังคั่ว : เป็นช่วงที่ดีที่สุด รสชาติและกลิ่นจะออกมาอย่างเต็มที่
* ระยะเวลาในการใช้งาน
กรณียังไม่เปิดถุง : สามารถเก็บได้ 3 เดือน
กรณีเปิดถุงแล้ว
: แบบเมล็ด – แนะนำทานให้หมดภายใน 1 เดือน
: แบบบด – แนะนำทานให้หมดภายใน 1 สัปดาห์
หากต้องการสอบถามข้อมูล ทักแชตมาพูดคุยกันได้
แอนนี่คอฟฟี่โรสเตอร์ยินดีให้บริการ ขอบคุณค่ะ