MICRONIC-P ไมโครนิค พี EDTA chelate คีเลต ธาตุอาหารรอง + ธาตุอาหารเสริม + ธาตุอาหารอื่นๆ 100 กรัม
เลขที่ลงทะเบียน Australia registration # 9402499 A Fertilizers Act
MICRONIC-P ไมโครนิค พี ประกอบด้วยธาตุอาหาร EDTA chelates mixture คือธาตุอาหารรวมที่พืชต้องการใช้ในปริมาณที่น้อยแต่ก็มีความจำเป็นต่อพืชสูง ได้แก่
1.ธาตุอาหารรอง secondary macronutrients คือ ธาตุอาหารที่พืชต้องการในปริมาณน้อยกว่ากว่าธาตุอาหารหลักแต่มากกว่าธาตุอาหารเสริม และมีความจำเป็นต่อต้นพืชมาก
2.ธาตุอาหารเสริม คือ ธาตุอาหารที่พืชต้องการในปริมาณน้อย โดยที่มีความเข้มข้นของธาตุอาหารโดยน้ำหนัก-แห้ง เมื่อพืชเจริญเติบโตเต็มวัยต่ำกว่า 100 มิลลิกรัม/กิโลกรั
3.ธาตุอาหารอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อพืช beneficial element
MICRONIC-P ไมโครนิค พี เป็นสารอาหารที่ละลายน้ำได้ดี และสามารถดูดซึมไปใช้ได้ทั้งทางราก ทางใบ และพืชนำไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว มีส่วนประกอบ ดังนี้
1.ธาตุอาหารรอง secondary macronutrients (w/v %)
Magnesium (Mg) แมกนีเซียม 3.0
Sulpher (S) กำมะถัน 0.5
2.ธาตุอาหารเสริม Micronutrients (w/v %)
Manganese (Mn) แมงกานีส 2.1
Copper (Cu) ทองแดง 1.0
Iron (Fe) เหล็ก 2.2
Zine (Zn) สังกะสี 3.5
Boron (B2O5) โบรอน 1.5
Molybdenum (Mo) โมลิปดินั่ม 1.0
3.ธาตุอาหารอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อพืช beneficial element (w/v %)
Cobalt (Co) โคบอลต์ 0.5
Vitamin (B1,B2) วิตามิน 0.05
** อัตราการใช้ : Micronic-P จำนวน 3-5 กรัม ต่อน้ำ 20 ล. ( ห้ามใช้เกินอัตราที่กำหนด ถ้าผสมฮอร์โมน+ปุ๋ย ให้ลดอัตราลงเหลือ 1-2 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร) ในการฉีดพ่น ควรฉีดพ่นช่วงเช้าหรือเย็น ที่แดดไม่จัด อากาศไม่ร้อน ลมไม่พัดแรง และคาดว่าฝนจะไม่ตก ต้นพืชต้องไม่เหี่ยวเฉาหรือขาดน้ำ ไม่ควรฉีดพ่นจนเปียกโชก เพราะจะเป็นการสูญเสียปุ๋ยโดยไม่จำเป็น และไม่ควรใช้เกินอัตราที่กำหนด ฉีดพ่นเป็นละอองเล็กๆ พอเปียกทั่วใบและทุกส่วนของพืช ใช้ได้ดีกับ แตง ถั่วต่างๆ มะเขือ มะเขือเทศ ผักกาดหอม กะหล่ำ ไม้ประดับ ไม้ผลทุกชนิด พืชหัว หอม แครอท มันฝรั่ง สับปะรด
** การนำไปใช้ :
– ผสมน้ำโดยตรงเพื่อเป็นธาตุอาหารสำหรับการปลูกพืช/ผักแบบไม่ใช้ดิน (Hydroponics)
– ละลายน้ำ ฉีดพ่นทางใบพืช ซึ่งพืชสามารถดูดซึมธาตุอาหารผ่านทางใบและสามารถนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ และรวดเร็ว
** ประโยชน์ : ช่วยป้องกันอาการขาดธาตุอาหารของพืช ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตและความอุดมสมบูรณ์ของพืช ช่วยการสะสมอาหาร ทำให้พืชทนต่อสภาพอากาศต่างๆได้ดี
** Chelates คีเลต คือ : สารประกอบที่เกิดจากการจับตัวกันของอะตอมเชิงเดี่ยว (ธาตุอาหาร) กับ สารที่ทำงานเป็นคีเลตติ้งเอเจนต์ (EDTA) สารที่ทำงานเป็นคีเลตติ้งเอเจนต์ (EDTA) นี้จะจับกับธาตุอาหารและหุ้มธาตุอาหารไว้เพื่อทำให้อนุภาคของธาตุอาหารไม่ถูกยึดอยู่กับดิน ทำให้เพิ่มการเคลื่อนย้ายของธาตุอาหารและทำให้ธาตุอาหารพร้อมสำหรับการดูดซึมของพืชได้มากขึ้น
**ประโยชน์ของธาตุอาหารในรูปคีเลต
1. ช่วยป้องกันและแก้ไขปัญหาการขาดธาตุอาหารรอง
2. ช่วยป้องกันธาตุอาหารจากปฏิกิริยาระหว่างฟอสเฟตกับดิน
3.ช่วยเคลื่อนย้ายธาตุอาหารไปบริเวณไรโซสเฟียร์(ดินที่เกาะอยู่ตามบริเวณรอบรากพืช)จนถึงบริเวณที่มีการดูดซึมธาตุอาหาร
**การทำงานของคีเลต :
1. คีเลตติ้งเอเจนต์ (EDTA) จะป้องกันอนุภาคของธาตุอาหารจากปัจจัยที่ให้เกิดการเคลื่อนที่ไม่ได้หรือปัจจัยที่ทำให้เกิดการกีดขวางในดิน
2. นอกจากจะเพิ่มความสามารถในการละลายน้ำและเพิ่มการเคลื่อนที่ได้ของธาตุอาหารใน ดินแล้ว คีเลตติ้งเอเจนต์ยังช่วยธาตุอาหารในการเคลื่อนย้ายไปอยู่ในไรโซสเฟียร์ (ดินที่เกาะอยู่บริเวณรากพืช) ดีขึ้น
3. คีเลตติ้งเอเจนต์จะปล่อยธาตุอาหารเข้าไปในพืชและถูกดูดซึมเข้าไปในไรโซสเฟียร์ (ราก)
4. การใช้คีเลตทำให้พืชสามารถดูดซึมธาตุอาหารได้ดี เพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพเมื่อเก็บเกี่ยว
** ข้อแตกต่างและประโยชน์ของธาตุอาหารในรูปคีเลตแบบผงกับธาตุอาหารในรูปอื่น
1. มีเสถียรภาพมากกว่าในดิน ธาตุอาหารที่ถูกปกป้องโดยคีเลตติ้งเอเจนต์จะไม่ทำปฏิกิริยากับธาตุอื่นๆที่อยู่ในดิน (เช่นคาร์บอนเนต, OM, สารประกอบ clay-humic เป็นต้น) ทำให้ธาตุอาหารพร้อมใช้อยู่ได้นานกว่า
2. เกิดประสิทธิภาพสูงสุดด้วยปริมาณการใช้ที่ต่ำกว่า เนื่องจากพืชสามารถนำไปใช้ได้ทั้งหมด
3. ละลายน้ำได้ดีและมีความเสี่ยงต่ำกับปัญหาดินเค็ม
4. สามารถผสมกับเคมีเกษตรส่วนใหญ่และปุ๋ยทางใบ
5. ง่ายต่อการใช้งาน การขนส่ง และการเก็บรักษา
directions for use :
This product is recommended for correction of trace element deficiencies as determined by foliar and soil testing in fruit crops and other crops as recommended by an agricultural representative or professional agricultural consultant. For best results apply in a band with starter fertilizer at seeding time. Side dressing and broadcast methods are also effective
1. แมกนีเซียม : เป็นองค์ประกอบของส่วนที่เป็นสีเขียว ทั้งใบ ลำต้น ผล และส่วนอื่นๆ มีบทบาทสำคัญในการสร้างอาหาร และโปรตีนของพืช
2.กำมะถัน : เป็นธาตุที่มีความจำเป็นต่อการสร้างโปรตีนพืช เป็นธาตุที่เป็นองค์ประกอบของโปรตีน และวิตามินบางชนิด เช่น วิตามินบี 1 นอกจากนี้ ยังมีผลทางอ้อมต่อการสร้างส่วนที่เป็นสีเขียวของพืช ช่วยในกระบวนการหายใจ และการสังเคราะห์อาหาร ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำมันในพืชบางชนิด เป็นองค์ประกอบของสารระเหยที่มีกลิ่นเฉพาะตัว เช่น หอม กระเทียม เป็นต้น
3.แมงกานีส : แมงกานีสมีผลต่อใบ เนื่องจากมีบทบาทในการสังเคราะห์แสง ช่วยกระตุ้นการทำงานของน้ำย่อย และควบคุมกิจกรรมของธาตุเหล็ก และไนโตรเจน
4. เหล็ก :เป็นองค์ประกอบของโปรตีน และมีบทบาทในการสังเคราะห์อาหาร ช่วยกระตุ้นกระบวนการหายใจ และกระบวนการปรุงอาหารให้เป็นไปอย่างสมบูรณ์
5. สังกะสีมีบทบาท และหน้าที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนพืช พืชที่ขาดสังกะสีจะทำให้ปริมาณฮอร์โมนไอ-เอ-เอ (IAA) ที่ตายอดลดลง