พร้อมส่ง คลื่นถึ่ความเหงา และ เสียงโทรศัพท์ข้ามเวลา, ฤดูร้อน ดอกไม้ไฟ และร่างไร้วิญญาณของฉัน โดย โอตสึ อิจิ
ความสัมพันธ์ของผู้คนล้วนมีสายใยเชื่อมโยงกันด้วยบางสิ่งบางอย่าง ทั้งที่เรารู้ตัว ไม่รู้ตัว แม้แต่กำลังใคร่ครวญสงสัย Bibli ภูมิใจนำเสนอ รวมเรื่องสั้นมาสเตอร์พีซยุคต้นปี 2000 ของ โอตสึ อิจิ นักเขียนที่ทุกคนรอคอย
.
เรื่องเล่าทั้ง 4 เจือไปด้วยความอบอุ่น เศร้าสร้อย เดียวดาย พิศวง แฝงกลิ่นอายแฟนตาซีบางเบา …นี่คือความอัศจรรย์ของโชคชะตาที่ชักนำให้ผู้คนได้มาพานพบกันแล้วแยกจาก ที่เมื่อได้อ่านคุณอาจเผลอนึกถึงความเป็นไปของตนเอง
.
สักบทตอนในหนังสือเล่มนี้อาจติดอยู่ในใจ
เพราะเราต่างมีใครบางคนที่ยังคงตราตรึง
.
#สัญญาณจากอนาคต
“ถ้าไม่มีใครตายเสียก่อน พวกนายสองคนจะได้แต่งงานกัน” คำทำนายจากเพื่อนสมัยชั้นประถมทำให้เด็กชายและเด็กหญิงที่เป็นเพื่อนร่วมชั้นกันตะขิดตะขวงใจ ทั้งสองแยกห่างกันไป จวบจนเด็กชายเติบโตเป็นหนุ่ม เขากลับยังคิดถึงเพื่อนผู้หญิงคนนั้นอยู่เสมอ แต่แล้วเขาก็ได้พบกับเธออีกครั้งในช่วงจุดต่ำสุดของชีวิต พร้อมกับปริศนาคำทำนายในอดีตที่เกินคาดเดา
.
#ขโมยกับอุบัติเหตุประสานมือ
นักออกแบบหนุ่มวางแผนเจาะรูที่ผนังห้อง เพื่อขโมยเงินของญาติที่มาพักในโรงแรม ทว่าสิ่งที่คว้าได้ขณะล้วงเข้าไปหาของ กลับเป็นมืออันบอบบางของหญิงสาว แล้วความสัมพันธ์ผ่านการจับมือของคนแปลกหน้าในสถานการณ์สุดประหลาดก็เริ่มต้นขึ้น
.
#เด็กสาวบนแผ่นฟิล์ม
โชคชะตาชักนำให้หญิงสาวมาพบกับฟิล์มม้วนหนึ่ง ฟิล์มนั้นถ่ายติดเด็กผู้หญิงในชุดนักเรียนกำลังยืนอยู่หน้าอุโมงค์อันมืดมิด และทุกครั้งที่ดูซ้ำเด็กผู้หญิงจะค่อย ๆ หันหน้ามาทีละนิด เธอจึงตัดสินใจตามหาความจริงเกี่ยวกับเด็กสาวบนแผ่นฟิล์มคนนั้น ราวกับถูกดึงดูดด้วยความลับอันพิศวง
.
#เรื่องเล่าที่สาบสูญ
ชายหนุ่มประสบอุบัติเหตุร้ายแรง กลายเป็นก้อนเนื้อที่ได้แต่นอนนิ่งอยู่บนเตียง สื่อสารได้แค่การกระดิกปลายนิ้วและแขนขวาที่รับความรู้สึกได้ โดยมีภรรยาผู้ชื่นชอบการเล่นเปียโนบรรเลงบทเพลงที่ไร้เสียงผ่านแขนของเขา ชีวิตอันมืดมิดของชายหนุ่มจะได้พบกับแสงสว่างอีกครั้งหรือจะกลายเป็นเรื่องราวที่รอวันถูกลืมเลือนไป
.
ท้ายเล่มนี้ ยังมี #คำตามของผู้เขียน หรือจะเรียกว่า ‘สิ่งที่โอตสึอยากพูดคุยกับนักอ่าน’ ก็ได้ นับเป็นครั้งแรกเลยที่มีการแปลคำตามของโอตสึ ทั้งที่มาที่ไปของพล็อตเรื่องจาก ‘สมองเรียบ ๆ’ (เขาเรียกสมองตัวเองแบบนั้น) เพลงคลาสสิกที่นาน ๆ ครั้งก็ทำให้ไอเดียผุดขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจ และอาหารกระป๋องที่เหลืออยู่
—————————————————————————————————————————-
ฤดูร้อน ดอกไม้ไฟ และร่างไร้วิญญาณของฉัน
ยามเช้ามาเยือนทุกคนนอกจากฉัน ทุกสิ่งล้วนมีชีวิตยกเว้นตัวฉันเท่านั้น…
คดีฆาตกรรมที่มีศพของ “ซัตสึกิ” เด็กสาววัย 9 ขวบเป็นผู้เล่าเรื่อง เธอค่อยๆ บรรยายถึงสิ่งที่พบเจอด้วยน้ำเสียงที่เรียบง่าย หากแต่สะท้อนถึงความเยือกเย็นของจิตใจมนุษย์ “เคน” และ “ยาโยย” สองพี่น้องวัยใกล้เคียงกับซัตสึกิ ผู้มีภาพลักษณ์ของเด็กอันสดใส น่าเอ็นดู ซึ่งทั้งคู่ก็อยู่ในเหตุการณ์นี้ พวกเขาพยายามดิ้นรนทุกวิถีทางที่จะพาตัวเองให้หลุดพ้นจากเรื่องราวเบื้องหน้า และทุกนาทีที่ผ่านไปในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ ความเยาว์วัยของพวกเขาก็ค่อยๆ ถูกพรากไปอย่างไม่มีวันกลับ ราวกับดอกไม้ไฟที่สว่างไสวงดงามบนฟากฟ้าเพียงไม่กี่นาทีก่อนที่จะดับสูญไปตลอดกาล
และอีกเรื่องราวของสาวใช้หน้าใหม่ในบ้านของคู่สามี-ภรรยาที่ทำตัวลึกลับ คุณผู้ชายที่ดูอ่อนโยนใจดี กับภรรยาที่ชื่อ “ยูโกะ” ตั้งแต่เธอมาทำงานที่บ้านหลังนี้ สาวใช้ไม่เคยเห็นคุณผู้หญิงออกมาจากห้องเลยสักครั้ง ไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยได้ยินเสียงของยูโกะ สาวใช้ไม่รู้ว่าเธอทำอะไรไม่ถูกใจยูโกะไหม และความสงสัยนี้เองก็พาเธอไปสู่ความลับที่น่าสะพรึงกลัวของคุณผู้หญิงและบ้านหลังนี้
โอตสึ อิจิ คือนักเขียนคนสำคัญที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร เขาผสมเรื่องราวลึกลับ การฆาตกรรม หรือเรื่องราวเหนือธรรมชาติกับตัวละครที่เป็นวัยรุ่นและเด็กอยู่บ่อยครั้ง งานเขียนของเขาจึงโดดเด่นด้วยการสะท้อนภาพการแตกสลายของเยาวชนหรือคนหนุ่มสาวออกมาได้อย่างสะเทือนใจ ด้วยภาษาที่เรียบง่ายแต่บาดลึกสู่ใจกลางความเจ็บปวด และ “ฤดูร้อน ดอกไม้ไฟ และร่างไร้วิญญาณของฉัน” เป็นผลงานที่เขาเขียนขึ้นเมื่ออายุ 17 ปีเท่านั้น ซึ่งได้รับคำชมล้นหลามและคว้ารางวัลวรรณกรรมดีเด่นครั้งที่ 6 ของนิตยสาร Jump อีกด้วย
จุดเด่น
– ปีค.ศ. 1996 โอตสึ อิจิ ได้รับรางวัลวรรณกรรมดีเด่นครั้งที่หกของ Jump จากเรื่อง Natsu To Hanabi To Watashi No Shitai (ฤดูร้อน ดอกไม้ไฟ และร่างไร้วิญญาณของฉัน) กับผลงานนวนิยายเรื่องแรก ซึ่งขณะนั้นเขาอายุเพียง 17 ปีเท่านั้น
– เสน่ห์และสไตล์การเขียนของโอตสึ อิจิ นอกจากจะเป็นที่ติดอกติดใจวัยรุ่นแล้ว ยังดึงดูดกลุ่มผู้อ่านผู้ใหญ่ได้อีกด้วย
– นอกจากงานเขียนแนวฆาตกรรม โอตสึ อิจิ ยังมีผลงานแนวแฟนตาซีที่เปี่ยมไปด้วยจินตนาการเหนือความเป็นจริง แฝงความเศร้าอย่างสุดซึ้ง จนได้รับฉายาว่าเป็น “ผู้เชี่ยวชาญด้านความเศร้า” เลยทีเดียว
– เป็นการนำ “ฤดูร้อน ดอกไม้ไฟ และร่างไร้วิญญาณของฉัน” ฉบับแปลภาษาไทยกลับมาจัดพิมพ์ใหม่อีกครั้งในรอบ 17 ปี และมีการเรียบเรียงเนื้อหาใหม่อีกครั้ง โดยคุณพรพิรุณ กิจสมเจตน์ เจ้าของสำนวนแปลฉบับเดิม ซึ่งปัจจุบันเธอคือบรรณาธิการสำนักพิมพ์ JLIT
– ภาพปกหนังสือฉบับภาษาไทยครั้งนี้มีความพิเศษตรงที่เป็นการร่วมงานระหว่าง Bibli กับศิลปิน Knn.Five ที่นำงานสไตล์อนิเมะและกลิ่นอายสีสันแบบ City Pop ในยุค 80 มาผสมผสานจนเป็นได้ภาพปกที่มีเสน่ห์ชวนติดตาม