ชื่อสินค้า : เมล็ดสวิสชาร์ด สีแดง Swiss Chard Ruby Ruby

มีให้เลือก 3 แพคเกจ คือ

15 เมล็ด

50 เมล็ด

100 เมล็ด

#ประโยชน์ของสวิสชาร์ด
1.ช่วยป้องกันมะเร็ง
2.วิตามิน A สูงเช่นกัน ช่วยบำรุงสายตา
3.วิตามิน C สูงมาก ช่วยระบบภูมิคุ้มกันและช่วยเรื่องผิวพรรณเปล่งปลั่ง
4.มี “โปรตีน” และ “ใยอาหาร” ในปริมาณที่สูง ช่วยในเรื่อง ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้
5. ช่วยลดไขมันในเลือดเพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระ
6. ช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ด้วยเพราะมีไฟเบอร์ไฟโตนิวเทรียน
7. มีไฟโตนิวเทรียน ช่วยระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยในเรื่องการป้องกันอาการอักเสบของเซลล์ ขับพิษจากร่างกาย และอีกมากมาย
8.มีสาร biotin ที่สูง ช่วยในเรื่องทำให้ผมแข็งแรงและกระตุ้นการเจริญของผม ทำให้ผมสวย เงางาม ได้อย่างดี
9.ช่วงเรื่องเลือด เนื่องจากมีปริมาณของวิตามินK ปริมาณสูงกว่าผักชนิดอื่นๆ ทานแค่ 1ถ้วยหรือ 100 กรัม มีไวตามิน K ถึง 700% (ทานดิบๆ) วิตามิน K ช่วยในเรื่อง ป้องกันเลือดออกภายในและเลือดออกไม่หยุด ช่วยบรรเทาอาการประจำเดือนมามากกว่าปกติ ช่วยในกระบวนการสร้างลิ่มเลือด ช่วยป้องกันกระดูกเปราะบาง

คำเตือนความเสี่ยง: สภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมของชานชาลาแตกต่างกันสำหรับพื้นที่

** จำนวนเมล็ดอาจมีการคลาดเคลื่อน +- เล็กน้อย เนื่องจากเมล็ดบางชนิดใช้การชั่งน้ำหนัก **

** ทางร้านขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงิน/คืนสินค้า/เปลี่ยนสินค้าทุกกรณี

** หมายเหตุ กรณีเมล็ดพันธุ์ลูกค้าจะต้องพร้อมรับความเสี่ยงนี้ก่อนสั่งซื้อทุกครั้ง เนื่องจากเมล็ดพันธุ์ของเรามีหลาย 100 ชนิด ดังนั้น จึงทำได้เพียงการสุ่มตรวจสอบคุณภาพของสินค้าเท่านั้น **

#เมล็ดพันธุ์ #เมล็ด #เมล็ดดอกไม้ #เมล็ดพืช #ผัก #เมล็ดผัก #เมล็ดผลไม้

เมล็ดพันธุ์ข้าว(ญี่ปุ่น) [500-600เมล็ด/ซอง]

ขั้นตอนการเตรียมเมล็ดพันธุ์

1. ตรวจสอบความงอกของเมล็ดพันธุ์ โดยมีวิธีการคือ นำเมล็ดข้าวพันธุ์ดีที่จะปลูกจำนวน 100 เมล็ด แช่น้ำไว้ 24 ชั่วโมง แล้วนำมาวางเรียงไว้บนกระดาษหนังสือพิมพ์หรือกระดาษทิชชูที่แช่น้ำจนชุ่ม แล้วปิดด้วยกระดาษชุ่มน้ำอีกชั้นหนึ่งหลังเรียงเมล็ดข้าวเรียบร้อยแล้ว วางไว้ในที่ร่มและมีความชื้น 24 – 48 ชั่วโมง เปิดกระดาษออกนับจำนวนเมล็ดที่งอก ถ้างอกเกิน 85 เมล็ด ก็ถือว่าเมล็ดพันธุ์มีความงอกสูงสามารถนำไปใช้ได้

2. การคัดข้าวโดยนำเมล็ดพันธุ์ข้าวใส่ลงไปในน้ำสะอาด หรือถ้าต้องการเมล็ดพันธุ์คุณภาพสูงก็ต้องคัดโดยใช้น้ำเกลือ โดยการผสมเกลือแกงกับน้ำสะอาด อัตราส่วนคือ เกลือ 1.5 – 2 กิโลกรัม ต่อน้ำ 10 ลิตร แล้วใช้มือคนเมล็ดข้าว จากนั้นก็ตักเมล็ดที่ลอยออก แล้วนำเมล็ดข้าวที่จมอยู่มาล้างด้วยน้ำสะอาดเพื่อกำจัดความเค็ม เมล็ดข้าวที่ได้คือเมล็ดที่มีความสมบูรณ์สูง เหมาะแก่การใช้เป็นพันธุ์ข้าว

3. แช่ข้าว นำเมล็ดข้าวใส่กระสอบที่น้ำสามารถผ่านได้ดี แล้วแช่ลงในน้ำสะอาด ใช้เวลาประมาณ 24 – 48 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับชนิดข้าว อุณหภูมิ และปัจจัยอื่นๆ) อาจแช่ในแหล่งน้ำไหลหรือน้ำนิ่ง เช่น ภาชนะก็ได้

4. บ่มข้าว นำข้าวขึ้นจากน้ำ ยกข้าวขึ้นจากน้ำให้สะเด็ดน้ำเป็นเวลา 1 คืน ให้ข้าวแตกตุ่มตาประมาณ 1 มิลลิเมตร เป็นระยะที่เหมาะสมที่สุดในการใช้งาน เพราะถ้าตุ่มตายาวมากจะติดขัดเครื่องโรยกล้า และหน่อจะหักได้ง่าย โดยอุณหภูมิในการบ่มไม่ควรต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส และไม่สูงกว่า 40 องศาเซลเซียส

ขั้นตอนการเพาะ

1. ใส่วัสดุเพาะ เช่น ขี้เถ้าแกลบ หรือดินละเอียด ลงในถาดเพาะกล้าให้วัสดุเพาะมีความสูงประมาณ 20 – 23 มิลลิเมตร (จากก้นถาด) โดยทำการปาดให้วัสุดเพาะมีความสม่ำเสมอ แล้วรดน้ำให้ชุ่ม (ประมาณ 1 – 1.5 ลิตรต่อถาด)

2. โรยเมล็ดพันธุ์ที่ได้เตรียมไว้ลงไป ประมาณถาดละ 180 – 220 กรัมต่อถาด

3. โรยวัสดุเพาะปิดหน้าประมาณ 3 – 5 มิลลิเมตร

4. ซ้อนถาดบ่มไว้ในที่ร่มประมาณ 2 คืน (36 – 48 ชม.) กล้าจะเริ่มงอกเป็นสีขาวๆ

5. ย้ายถาดที่บ่มไว้แล้ว ไปแผ่ถาดในแปลงอนุบาลกล้า ที่มีความชื้นแต่ยังไม่ต้องใส่น้ำในแปลงจนเย็นวันที่ 3 ค่อยใส่น้ำลงแปลงระดับความสูงของน้ำครึ่งขอบถาดเพาะกล้า

ขั้นตอนการดูแลแปลงเพาะกล้า

คอยดูแลรักษาระดับน้ำในแปลงเพาะให้มีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการขาดน้ำของกล้าข้าว ซึ่งอาจจะทำให้กล้าข้าวชะงักการเจริญเติบโตและตายได้ หมั่นตรวจโรคและแมลง ในช่วงเช้าทุกวันเพื่อจะได้ป้องกันรักษาได้ทันท่วงที

การเตรียมกล้าให้พร้อมสำหรับการปักดำ

เมื่อกล้าเจริญเติบโตจนพร้อมปักดำ ก่อนจะนำกล้าออกจากแปลงเพาะเพื่อนำไปปักดำ ต้องมีการระบาดน้ำออกปล่อยให้แปลงเพาะกล้าแห้งประมาณ 2 – 3 วัน เพื่อบังคับให้กล้ามีความแกร่ง ต้นและรากมีความเหนียวไม่หักเสียหายได้ง่าย ในขณะเคลื่อนย้ายและปักดำ

เมล็ดเสี้ยวป่าซอง15เมล็ด70บาทดอกมีกลิ่นหอมอ่อนๆ เสี้ยวป่าเนื้อไม้เปราะและหักง่าย ลายไม้ไม่เป็นระเบียบ การขยายพันธุ์ของเสี้ยวป่าโดยมากแล้วมักจะงอกใหม่ขึ้นมาจากรากที่กระจายไปตามพื้นดินรอบ ๆ ต้นมากกว่าการงอกจากเมล็ด ทำให้ต้นเสี้ยวป่ามักขึ้นอยู่เป็นกลุ่ม ๆ มากกว่าพบเป็นต้นเดี่ยว โดยจะมีรากแก้วหยั่งลึกลงไปในดินและมีรากแขนงแตกออกโดยรอบแผ่ออกไปตามพื้นดิน เป็นพืชที่สามารถขึ้นได้ในทุกสภาพดิน มีเขตการกระจายพันธุ์ในภูมิภาคอินโดจีน ในประเทศไทยพบได้ทั่วไปในพื้นที่โล่ง ป่าทุ่งหญ้า ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง และตามป่าผลัดใบผสมเกือบทุกภาคของประเทศ ยกเว้นทางภาคใต ราคา 70 บาท จำหนายโดย SomruedeeSeed

Blimburn Seeds ค่ายแท้
เพศเมีย99.9% คุณภาพดีจากตัวแทนจำหน่าย
มีใบอนุญาต
1 เมล็ด(ไม่มีแพ็คเกจ)
3 เมล็ด(พร้อมแพ็คเกจ)

AT = Auto
PT = Photo

❌งดเคลมเมล็ดทุกกรณี❌

ดาวเรือง (Marigold)

เป็นไม้ดอกที่นิยมนำมาปลูกกันมากขึ้น จากชื่อที่เป็นมงคลและมีสีสันสวยงาม ดึงดูดสายตา สำหรับพันธุ์ที่เลือกมานี้ สามารถปลูกได้ดีในประเทศไทย ปลูกได้ทุกฤดูกาล

*** แนะนำการเลือกสายพันธุ์เบื้องต้นค่ะ***
ดาวเรืองฝรั่งเศส จะให้ดอกขนาดเล็ก ดอกดก ออกดอกพร้อมเพรียงกัน ดูน่ารักค่ะ มี 2 แบบค่ะ คือสีเหลือง และแบบหลากสี
สำหรับคุณลูกค้าที่ต้องการปลูกดาวเรืองในกระถาง จะเป็นพันธุ์ที่มีความสูงไม่มากนัก เพื่อที่ต้นจะไม่หักล้มง่าย ความสูงประมาณ 30-50 ซม. ให้ดอก ขนาดประมาณ 7-10 ซม. สายพันธุ์ที่เหมาะสม ได้แก่ พันธุ์ปริ้นซ์ พันธุ์มิดฟิวส์ และพันธุ์กระถาง แต่ละพันธุ์มี 3 สีให้เลือก คือ เหลือง ทองและสีส้มค่ะ
สำหรับคุณลูกค้าที่ต้องการดอกดาวเรืองขนาดใหญ่ หรือต้องการปลูกเพื่อตัดดอกขาย แนะนำเป็นสายพันธุ์ซันชายน์ สายพันธุ์มหาโชค และสายพันธุ์ลูกผสม แต่ละพันธุ์มี 3 สีให้เลือก คือ เหลือง ทองและสีส้มค่ะ
สำหรับคุณลูกค้าที่ต้องการปลูกลงดิน ใช้ประดับแปลง สามารถเลือกได้ทุกสายพันธุ์ค่ะ รายละเอียดหลักๆ จะแตกต่างกันในเรื่องความสูงต้นและขนาดดอก ตามที่ได้กล่าวมาค่ะ

***รายละเอียดเฉพาะของแต่ละสายพันธุ์***

1. ดาวเรืองฝรั่งเศส (French Marigold) Durango ดูแรงโก้ สีผสม (หลากสี)
ตรา AGA AGRO
ต้นใหญ่แข็งแรง ดอกกึ่งซ้อน ดอกใหญ่ ก้านแข็งแรง ออกดอกต่อเนื่องและพร้อมเพรียงกันทุกสี ทนร้อนได้ดี
ขนาดดอก 4-5 ซม.
ความสูงต้น 35-40 ซม.
ทรงพุ่มกว้าง 25-30 ซม.
ปริมาณบรรจุ 30 เมล็ด
ความงอก 85%
แหล่งรวบรวม USA

2.ดาวเรือง มิดฟิวส์
ดอกดก กลมสวย ต้นสูงพอเหมาะ (35-40 ซม.) ต้นไม่หักล้มง่าย ดอกขนาดกลาง (7-8 ซม.) สามารถปลูกเป็นไม้กระถางได้
มี 3 สี คือ สีเหลือง สีทอง และสีส้ม
ปริมาณบรรจุ 15 เมล็ด
ความงอกร้อยละ 85

3. ดาวเรือง แอฟริกัน Prince ปริ้นซ์
ตรา AGA AGRO
ดาวเรืองไม้กระถาง ที่ออกดอกเร็ว ทรงพุ่มใหญ่และแข็งแรง ดอกขนาดใหญ่สม่ำเสมอ โดยเฉพาะสีเหลืองดอกจะใหญ่มาก ดอกกลมสวยทั้งสามสี เหมาะสำหรับปลูกเป็นไม้กระถางและปลูกประดับแปลง ปลูกได้ทุกฤดู เมื่อปลูกในช่วงปลายฝน ต้นหนาวและตลอดทั้งฤดูหนาว ปริ้นซ์จะแสดงความสวยของดอกมากที่สุด
มี 3 สี คือ เหลือง ทอง และส้ม
ปริมาณบรรจุ 15 เมล็ด
ความงอกร้อยละ 85
ขนาดดอก: 10-12 ซม.
ความสูงต้น: วันสั้น 50-55 ซม. วันยาว 55-60 ซม.
ทรงพุ่มกว้าง 35-40 ซม.
กลบเมล็ดตอนเพาะ: กลบ
จำนวนวันที่งอก: 3-5 วัน
วันเพาะถึงวันย้ายปลูก: 15-20 วัน
วันเพาะถึงวันออกดอกสวย: วันสั้น 55-60 วัน วันยาว 60-65 วัน
ชอบแสงแดด : ชอบแสงแดด
ลักษณะเมล็ดที่จำหน่าย : เมล็ดธรรมชาติ
เหมาะสำหรับ ปลูกเป็นไม้กระถางและประดับแปลง
ฤดูกาลปลูก: ทุกฤดู

4. ดาวเรือง ซันชายน์ Marigold Sunshine
ดาวเรืองเอกะ ซันชายน์ ซีรี่ย์ ดาวเรืองที่ตอบโจทย์เกษตรกรที่ต้องการเพาะปลูกดาวเรืองในฤดูร้อน-ฤดูฝน เนื่องจากเป็นพันธุ์ดาวเรืองลูกผสมที่ปรับปรุงแบบพิเศษให้สามารถทนต่อสภาพอากาศร้อนได้ดี มีทรงต้นแข็งแรงและมีความสูงที่พอดี ช่วยลดต้นทุนในการจัดการการดูแลแปลง ที่สำคัญที่สุดคือการปรับปรุงเพิ่มคุณภาพของดอก ให้มีกลีบดอกแข็งขึ้นเพื่อทนต่อการขนส่งและการจัดเก็บดอกดาวเรือง
ขนาดของดอกดาวเรือง ซันชายน์ ซีรี่ส์ จะมีขนาดที่ใกล้เคียงกันมากๆ ทำให้คัดแยกเกรดได้ง่าย ลดต้นทุนคนงาน
มี 3 เฉดสีคือ สีเหลือง , ทองเข้ม (ดีพโกลด์) และอัลตร้า ดีพโกลด์
ปริมาณบรรจุ 15 เมล็ด
ความงอกร้อยละ 85
ขนาดดอก: 10-12 ซม.
ความสูงต้น:(วันสั้น) 70-90 ซม. (วันยาว) 100-110 ซม.
ขนาดทรงพุ่ม: (วันสั้น) 50-65 ชม. (วันยาว) 60-70 ชม.
วันเพาะถึงวันออกดอก:(วันสั้น) 55-60 วัน (วันสั้น) 65-70 วัน

5.ดาวเรือง แอฟริกัน มหาโชค
ดาวเรืองตัดดอก ดอกใหญ่ ขนาดดอก 10-12 ซม.
ในช่วงวันสั้น (ฤดูหนาว) ความสูงของต้น 60-70 ซม. วันออกดอกแรก 55-60 วัน
ในช่วงวันยาว (ฤดูร้อน/ฤดูฝน) ความสูงของต้น 90-100 ซม. วันออกดอกแรก 60-65 วัน
ปลูกได้ทุกฤดู นิยมปลูกในฤดูฝนเนื่องจากออกดอกเร็วกว่าสายพันธุ์อื่น กลีบดอกระบายน้ำได้ดี หน้าดอกจึงไม่ไหม้ ดอกดก และมีขนาดใหญ่ต่อเนื่อง
มี 3 สี
– สีทองเข้ม (พรีเมี่ยม ดีพโกลด์) ดาวเรืองสายพันธุ์ใหม่ ในตะกูลมหาโชค พัฒนาให้มีดอกใหญ่ ดก กลมแน่นหุ้มฐานรองดอก และให้ดอกใหญ่ต่อเนื่องหลายชุด แข็งแรงทนต่อโรค ฐานรองดอกไม่แตก ปลูกได้ทุกฤดู
– สีทองเข้ม ดาวเรืองตัดดอกที่ปลูกได้ทุกฤดู หากปลูกในฤดูฝนจะออกดอกเร็วกว่าสายพันธุ์อื่น กลีบดอกที่ระบายน้ำได้ดี หน้าดอกไม่ไหม้ จึงนิยมปลูกในฤดูฝน และฤดูร้อน ดอกดกและมีขนาดใหญ่ต่อเนื่อง
– สีส้ม ปลูกได้ทุกฤดู จะแตกทรงพุ่มและให้ดอกสวยที่สุดในฤดูฝนจนถึงหนาว ดอกดก ก้านยาวชูเหนือทรงพุ่ม
– สีเหลือง ดอกดก กลมสวย สีเหลืองดอกคูนไม่ติดเขียว ก้านดอกยาว นิยมปลูกในฤดูฝนจะให้ดอกขนาดใหญ่
ปริมาณบรรจุ 15 เมล็ด
ความงอกร้อยละ 85

6.ดาวเรืองแอฟริกัน เหลืองสุโขทัย
ดาวเรืองสีเหลืองนวลเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดอกดก กลมสวย ขนาดดอก 8-10 ซม. กลีบดอกเรียงชิดแน่นมาก ต้นสูงพอเหมาะ สามารถปลูกได้ทุกฤดูดาวเรือง เหลืองสุโขทัย
ในช่วงวันสั้น (ฤดูหนาว) ความสูงของต้น 60-70 ซม. วันออกดอกแรก 55-60 วัน
ในช่วงวันยาว (ฤดูร้อน/ฤดูฝน) ความสูงของต้น 70-80 ซม. วันออกดอกแรก 60-65 วัน
ปริมาณบรรจุ 15 เมล็ด
ความงอกร้อยละ 85

7. ดาวเรืองลูกผสม (F-1) ตรา ภูเขาทอง
ปริมาณบรรจุ 10 เมล็ด อัตราการงอกร้อยละ 85

7.1 พันธุ์กระถาง
ต้นสูง 30-50 เซนติเมตร 55-60 วันออกดอก
มี 3 สี
– สีเหลือง (อำพัน 40)
– สีทอง (ทองคำ 34)
– สีส้ม (ออเร้นจ์ควีน 63)

7.2 ดาวเรืองลูกผสม
มี 3 สี
– สีเหลือง (เยลโล่ไชน์ 10)
– สีทอง (แสงทอง 549) ดอกแข็งแน่น ขนาดดอก 8-10 เซนติเมตร
– สีทอง (ประกายทอง 545) ดอกแข็งแน่น ขนาดดอก 8-12 เซนติเมตร
– สีส้ม (ฮอลแลนด์ 14) ดอกแข็งแน่น ขนาดดอก 8-10 เซนติเมตร

เมล็ดพันธุ์ ฟักทอง พันธุ์ทิพย์ทอง ฟักทองลูกผสม แบ่งขาย (ซื้อ 5 แถม 1)

ขนาด : 10 เมล็ด/ซอง

ปลูกง่าย โตไว เมล็ดใหม่ เก็บได้นานกว่า 1 ปี

ข้อแนะนำ
วิธีการเก็บรักษาเมล็ด : ควรเก็บเมล็ดไว้ในถุง หรือภาชนะปิดสนิท ไม่ให้อากาศเข้า แล้วเก็บไว้ในตู้เย็น

#ฟักทอง #ทิพย์ทอง #ฟักทองลูกผสม #ผักชีลาว #มะเขือ #มะเขือเปราะ #หอมแบ่ง #ต้นหอม #ผักกาดฮ่องเต้ #ผักกาด #เมล็ดผักกาด #เมล็ดพันธุ์ #ผัก #ผักสวนครัว #คื่นฉ่าย #ผักชี #เมล็ดผักชี #เมล็ดผัก #พันธุ์พืช #ผักชีไทย

รสชาติและกลิ่น : หอมอ่อนๆอายุเก็บเกี่ยว: 90 วันความต้องการแสงแดด: แดดจัดหรือแดดเต็มวันดินที่เหมาะสมกับการปลูก: ดินร่วน / ดินร่วนปนทรายอัตรางอกประมาณ: 80%

รายละเอียด : กุหลาบเลื้อยสีแดงเลื้อยไกลถึงถึง 10เมตร เหมาะกับการปลูกขึ้นซุ้ม กำแพง ดอกดก พวงใหญ่ บานทน สี แข็งแรง ใบดกสวย เลื้อยเก่งที่สุดในบรรดากุหลาบเลื้อย เหมาะกับการขึ้นซุ้มประตูรั้วด้วย

การใช้ประโยชน์: ใช้ปลูกประดับเพื่อความสวยงาม

หมายเหตุ **อัตรางอกข้างต้นเป็นการทดสอบเพาะโดยใช้วัสดุพีทมอสในห้องควบคุมเท่านั้นอัตรางอกอาจแปรผันตามสภาวะแวดล้อมและวิธีการปลูกของผู้ปลูก เช่น ดินที่ใช้หรือวัสดุที่ใช้วิธีการเพาะ อุปกรณ์ในการเพาะ อุณหภูมิ ความชื้น เป็นต้นหากเมล็ดพันธุ์ที่ลูกค้าซื้อไปปลูกแล้ว เกิดไม่ตรงกับชื่อพืช สายพันธุ์ หรือสีที่สั่ง หากมีข้อผิดพลาดสามารถติดต่อทางร้านได้ทันที

เมล็ดฟักทองสปาเก็ตตี้ 10-20เมล็ด spaghetti squash Original Packaging สายพันธุ์ OP

ฟักทองสปาเก็ตตี้ (spaghetti squash) สายพันธุ์ OP

อัตรางอก : 85%
ความต้องการแสงแดด เต็มวัน
ดินที่เหมาะสม : ดินร่วน/ร่วนปนทราย
อายุเก็บเกี่ยว 80-90 วัน
น้ำหนักของผล 2-3 กก./ผล 2-3ผล/ต้น
วันหมดอายุ : 10/2564
พันธุ์เบา การเจริญเติบโตได้ดี น้ำหนักพอเหมาะ ผิวสีเหลืองทอง เนื้อหวานเป็นเส้นๆ ทำอาหารได้หลากหลาย เมื่อนำส้อมมาขูดที่เนื้อผลจะเป็นเส้นสีเหลืองคล้ายเส้นสปาเก็ตตี้ สามารถนำมาประกอบอาหารเส้น หรืออื่น ๆ ได้หลากหลาย แคลอรี่ต่ำ

เมล็ดพันธุ์กะหล่ำปมสีม่วง 500เมล็ด เมล็ดพันธุ์โคราบีสีม่วง เมล็ดพันธุ์แท้สามารถทำพันธุ์ต่อได้ กะหล่ำปมสีม่วง หรือ โคราลีสีม่วง เป็นพืชตระกูลกะหล่ำ นิยมปลูกในต่างประเทศมาเป็นเวลานานแล้ว เจริญเติบโตได้ดีในอากาศเย็น แต่ก็สามารถปลูกในประเทศไทยได้ มีสารอาหารต่างที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย สารต้านอนุมูลอิสระสูง วิธีการปลูก: นำเมล็ดมาแช่น้ำทิ้งไว้ 4 ชั่วโมง จากนั้นนำไปเพาะลงกับดินเพาะกล้าที่เตรียมไว้ รดน้ำเช้าเย็น วางไว้ในที่ร่มจนกว่าเมล็ดจะงอก พอเมล็ดงอกแล้วในนำออกรับแสงอ่อนในตอนเช้า พอต้นกล้าอายุครบ 30 วัน ให้แยกลงแปลงหรือกระถางปลูก ระยะห่างระหว่างต้น 25-30 ซ.ม. หมั่นพรวนดิน ใส่ปุ๋ยคอก และป้องกันแมลงศัตรูพืชด้วยน้ำส้มควันไม้ ทุกๆ 7-10 วัน อายุการเก็บเกี่ยว:80-90วัน #เมล็ดพันธุ์ผัก #ปลูกผักสวนครัว #ผักปลอดสารพิษ #เมล็ดพันธุ์คุณภาพ ราคา 33 บาท จำหนายโดย NY882 Shop

วิธีการปลูก
– เพาะเมล็ดในถาด1-3 วัน (ทิชชู่หรือเป็นเพราะในพีทมอสก็ได้)
– หลังจากนั้นเอาต้นที่งอกแล้วมาใส่ในถาดหลุม (ถาดใส่เพราะใส่พีชมอส) แดดรำไร
– ต้นกล้าได้อายุ15-20วัน แล้วค่อยเอาลงกระถางหรือแปลงปลูก (แสงแดด 100% ทั้งวัน)
-รดน้ำเช้าเย็น ถ้าอากาศร้อนหรือ ลมแรงให้รดเพิ่ม ช่วงกลางวัน หรือถ้ามีฟางข้าวคลุมหน้าดินได้ยิ่งดีครับ
-อายุการเก็บเกี่ยว 45-50วัน
(เคล็ดลับที่ทำให้ห่อดี กอใหญ่ ปลูกให้ได้ระยะระหว่างต้น 25-30mc. แสงแดดเพียงพอตลอดทั้งวัน)