1.เมล็ดพันธุ์เกรดเอ ตรา เจียไต๋
2.ของแท้ตรงสายพันธุ์ อัตราความงอกสูง
3.บรรจุในซองอย่างดี มีให้เลือกหลายชนิด ได้แก่
ผักบุ้ง ผักกาดขาว คะน้า กะเพราขาว กระเพราแดง คื่นช่าย กะหล่ำปลี ฟักทอง ผักชี แตงกวา โหระพา แมงลัก ผักโขม มะเขือ

” ไทเกษตร ThaiKaset ” เพื่อนแท้เกษตรกรและคนรักสวน
จำหน่ายปลีก-ส่ง เมล็ดพันธุ์ ถุงเพาะชำ วัสดุเพาะ ถาดเพาะกล้าเกรดเอ ถาดนาโยน มีทั้งแบบ 60 หลุม 104 หลุม และ 200 หลุม รวมถึงดินเพาะ ดินมีเดีย ถุงเพาะชำหลากหลายขนาด ทั้งสีดำและสีขาว

#เมล็ดพันธุ์ #เมล็ดพันธ์ #เมล็ดผัก #เมล็ดผักบุ้ง #เมล็ดผักคะน้า #เมล็ดผักกาดขาว #เมล็ดกะหล่ำปลี #เมล็ดฟักทอง #เมล็ดผักชี #เมล็ดแตงกวา #เมล็ดคื่นช่าย #เมล็ดกะเพรา #เมล็ดกระเพราะ #เมล็ดโหระพา #ผักซอง #เมล็ดเจียไต๋

‼️การรับประกันจากทางร้าน‼️
ถึงลูกค้าที่มีอุปการคุณทุกท่าน❤️
เพื่อประโยชน์ของลูกค้า ต้นไม้เสียหาย ต้นไม้ตายระหว่างจัดส่งหรือได้รับแล้ว ไม่ประทับใจ❗️ อัดคลิป ถ่ายรูป (ในวันที่ได้รับ) ส่งมาทางข้อความ ทางร้านยินดีเคลมหรือคืนเงินให้ครับ❗️ สบายใจและหมดกังวลได้เลยครับ❗️และที่สำคัญส่งไวมาก❗️

กิ่งพันธุ์ชะอม พันธุ์หนามน้อย หนามสั้น เริ่มแตกยอด ออกรากแล้ว พร้อมลงปลูกได้เลย
เป็นผักสวนครัวรั้วกินได้ ปลูกเป็นแนวรั้วก็ได้ประโยชน์
ชะอมเป็นพืชที่ ปลูกง่าย ทนแล้ง ใช้น้ำน้อย ขึ้นได้กับดินแทบทุกชนิด
ชะอมชอบดินชุ่มชื้น ไม่ชอบแฉะ หรือน้ำขัง การปลูกชะอมควรยกร่องขึ้น เพื่อป้องกันน้ำท่วม รดน้ำไม่ต้องมาก ดูตามสภาพดิน และอากาศ หรือ 2-3 วันครั้ง

ชะอมยิ่งเด็ดยิ่งแตกยอดใหม่มาเรื่อย ๆ ควรดูแลรักษาต้นชะอมโดยใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก เดือนละครั้ง จะทำให้ต้นชะอมแข็งแรงและเจริญเติบโตได้ดี มีกินตลอดปี

แบ่งขาย 50 เมล็ด 30 บาท

มะเขือเทศ เทพประทาน
ต้นแข็งแรง สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้นาน ทรงผลยาวรี น้ำหนักผลเฉลี่ย25-30 กรัม มีเนื้อแน่นแข็งไม่แตกง่ายเมื่อปลูกในฤดูฝนทนทานต่อการขนส่ง เมล็ดปลอดโรค

วิธีการปลูกผักชี 

 1. การเลือกเมล็ดพันธุ์ผักชี เมล็ดพันธุ์ผักชีที่นิยมปลูกกันเนื่องจากปลูกง่าย หาซื้อง่ายตามท้องตลาดทั่วไปและเจริญงอกงามดี ได้แก่พันธุ์ เมล็ดผักชีพันธุ์สิงคโปร์และเมล็ดผักชีไต้หวัน 

 2. การเตรียมดินเพื่อปลูกผักชี การปลูกผักชีสามารถปลูกได้ทั้งในกระถางและปลูกในแปลงดิน การปลูกในกระถางเหมาะสำหรับท่านที่ต้องการปลูกรับประทานเอง และการปลูกในแปลงดินเป็นการปลูกเพื่อจำหน่าย สำหรับท่านที่ต้องการปลูกในแปลงดินควรขุดดินหรือพรวนดินขึ้นมาตากแดดไว้ก่อนสัก5-7วัน แล้วทำการพรวนดินซ้ำอีกทีนึงเพื่อให้ดินมีความร่วนและทำการผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยสดคลุกเคล้ากับแปลงดิน

 3. เมื่อได้เมล็ดพันธุ์ผักชีมาแล้ว ให้ทำการบดเมล็ดผักชีให้แตกออกเป็น2ส่วนก่อน(สำคัญมาก) แล้วจึงนำไปแช่น้ำ 1-3วัน (แนะนำ การแช่น้ำควรนำผ้ามาห่อไว้ แล้วหาอะไรกดทับให้มิดจมน้ำไปเลย) การบดเมล็ดผักชีจะทำให้ผักชีเจริญเติบโตง่ายและเร็วขึ้น ที่สำคัญเมล็ดพันธุ์ผักชีที่จะนำมาปลูกควรเป็นเมล็ดพันธุ์ผักชีที่ใหม่เพราะเมล็ดพันธุ์ผักชีเก่าที่เป็นราปลูกยังไงก็ไม่ขึ้น

 4. เมื่อแช่เมล็ดพันธุ์ผักชีแล้ว นำไปผึ่งลม เมื่อเมล็ดพันธุ์ผักชีเริ่มงอกก็นำไปหว่าน 

 5. ก่อนการนำเมล็ดพันธุ์ผักไปหว่านควรรถน้ำให้ซุ่มแปลงดิน แล้วจึงนำเมล็ดพันธุ์ผักไปหว่าน และคลุมด้วยฟางข้าวบางๆ เพื่อป้องกันต้นอ่อนจากแสงแดดและรักษาความซุ่มซื้นของแปลงดิน 

 6. การรดน้ำและการกำจัดวัชพืช ผักชีเป็นผักที่ต้องการน้ำมาก ดังนั้นควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอวันละ2ครั้ง แต่อย่ารถน้ำมากเกินไป เพราะผักชีไม่ชอบน้ำที่ขัง จะทำให้ผักชีเน่าง่าย ส่วนการกำจัดวัชพืชควรกำจัดอย่างทันที โดยใช้มือถอนได้เลย เพราะวัชพืชจะเป็นตัวแย่งน้ำจากผักชีทำให้ผักไปไม่เจริบเติบโต 

 7. การใส่ปุ๋ยให้ผักชีหลังจากแตกใบแล้วแนะนำให้ใส่ปุ๋ยหมัก

การเก็บเกี่ยวผักชี
ผักชีจะเริ่มเก็บเกี่ยวได้เมื่ออายุประมาณ 40-45วัน ก่อนการเก็บเกี่ยวควนรดน้ำให้ซุ่มแปลงดินเพื่อการถอนผักชีที่ง่ายขึ้นทำให้ต้นผักชีไม่ขาด การเก็บเกี่ยวผักชีทำได้โดยการใช้มือจับที่โคนรากแล้วถอนดึงขึ้นมา แล้วสะบัดดินออก แล้วน้ำไปล้างน้ำ คัดใบสีเหลืองหรือใบที่เน่าออก  มัดๆเป็นกำแล้วใส่ตะกร้าเพื่อทำการขนส่งต่อไป ต้นผักชีที่เป็นสีเขียวสม่ำเสมอจะขายได้ราคาดี โรคและแมลงศัตรูของผักชี โรคที่เป็นง่ายและพบเจอกันบ่อยๆก็คือโรคใบเน่าใบเหลืองและแมลงศัตรูของผักชี คือ เพลี้ย ปัญหทั้ง2อย่าง แก้ไขโดยการฉีดพ่นยา สรุป ผักชี เป็นผักที่เป็นที่ต้องการของตลาดและราคาสูง ผักชีเป็นผักที่มีประโยชน์มาก ใช้ได้ทั้งต้นและใบที่ใช้นำไปประกอบอาหาร ส่วนรากผักชีมีนำมาตำเพื่อเป็นเครื่องแกงเนื่องจากมีกลิ่นหอมทำให้เพิ่มรสชาติของอาหารให้อร่อยขึ้น 

 

การปลูกผักชี 

 1. หมั่นรดน้ำ 

 2. ให้ผักชีโดนแดดตลอดวันหรือเกือบทั้งวัน 

 3. ดินต้องร่วนซุน ไม่ขังน้ำ

 4. ถ้าผักชีงอกแล้วใบหงิก แสดงว่ามีเพลี้ยไฟ 

 5. ระวังมด 

เมล็ดสายพันธุ์ 24k Gold Photoperiod โฟโต้ บรีดเพศเมีย90-95%ด้วยน้ำยาsts

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่เป็นระดับพรีเมี่ยมที่มีราคาสูงมผสานกับกลิ่นอายของต้นสน และมัสค์ เมื่อแตกหน่อจะมีกลิ่นฉุนเล็กน้อยและมีกลิ่นคล้ายธูปหอมอ่อนๆ กินเหล่านี้ถือว่าเป็นกลิ่นที่รัญจวนใจอย่างมาก เมื่อโตเต็มที่จะให้ดอกขนาดปานกลางถึงใหญ่ โดยมีโครงสร้างเป็นดอกตูมตามแบบฉบับสายพันธุ์ indica ตาเหล่านี้สามารถกลมหรือเกือบเป็นเหลี่ยมได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะฟีโนไทป์ ใบมีสีเขียวอ่อนมีเกสรตัวเมียสีส้มเติบโตอย่างเด่นชัด ต้นของสายพันธุ์ทองคำ 24K มีไตรโคมเคลือบอยู่เยอะมาก ทำให้มีลักษณะเป็นน้ำค้างแข็งในฤดูหนาว ผู้ที่ได้พบเห็นต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามีความสวยงาม

Yield: 450 500-m2
40% sativa 60% indica
กลิ่น / รสชาติ: ส้ม, ฟรุ๊ตตี้, ส้ม
THC 20% – 22%
อาการหลังจากบริโภค – รู้สึก relax ผ่อนคลาย สนุกสนาน

ข้อมูลจากค่ายต้นแม่

*ลูกค้าควรศึกษาการเพาะเมล็ดปลูกพืชมาเป็นพื้นฐานก่อน

Butterfly Herbs Fernleaf Lavender แตกต่างจาก Lavender สายพันธุ์อื่นๆอย่างชัดเจน โดยเฉพาะที่ใบนั้นจะมีลักษณะคล้ายใบของเฟิน ลำต้นยาวและมีตุ้มดอกสีน้ำเงินม่วงที่ดูสวยงามไม่แพ้สายพันธุ์อื่นๆ สามารถเพาะเมล็ดได้โดยง่าย ลักษณะต้นจะเป็นพุ่มและสามารถให้ดอกได้ในปีแรกที่ปลูก ใบ Fernleaf Lavender มีกลิ่นหอมของออริกาโนและดึงดูดผึ้งและผีเสื้อเป็นอย่างมาก สำหรับเมืองไทยเพื่อให้ง่ายต่อการจัดการควรปลูกในกระถางเป็นอย่างยิ่ง

จำนวนเมล็ด
Butterfly Fernleaf Lavender 45 เมล็ด (โดยประมาณ)

ชื่อทางวิทยาศาสตร์
Lavandula multifida

วิธีการเพาะเมล็ด
เมล็ดพันธุ์ลาเวนเดอร์จะใช้เวลาในการงอกค่อนข้างนานกว่าสมุนไพรชนิดอื่น

วางเมล็ด Butterfly Herbs Fernleaf Lavender บนพีทมอส กลบให้บางที่สุดไม่ควรเกิน 1-2 มิลลิเมตร หรือใช้นิ้วกดลงไปที่เมล็ดเบาๆโดยให้เมล็ดจมอยู่ในพีทมอส หรืออาจใช้วิธีการเพาะเมล็ดด้วยกระดาษทิชชู่แทน พรมน้ำให้ชุ่มวางในที่ที่มีแสงสว่างและรักษาความชื้นจนกว่าเมล็ดจะงอก
*** วางถาดเพาะเมล็ดในที่ที่มีแสงสว่าง ***

ระยะเวลาในการงอก
7-14 วัน

วัสดุปลูก
วัสดุปลูก
ปลูกได้ดีในวัสดุปลูกทั่วไปที่ไม่จำเป็นต้องมีแร่ธาตุครบถ้วน มีความร่วนซุยสูง ระบายน้ำได้ดีและเร็ว เนื่องจากต้น Lavender ไม่ชอบให้รากเปียกชื้นเป็นเวลานาน เช่น ดินร่วนปนทราย หรือหินภูเขาไฟผสมกับพีทมอส รองก้นกระถางด้วยเมล็ดดินเผาหรือหินภูเขาไฟเบอร์ใหญ่

ปลูกระยะห่างต่อต้น
18 นิ้ว (สำหรับสภาพอากาศในเมืองไทย เพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้าย ควรปลูกในกระถางกว้าง 8 นิ้วขึ้นไป)

ปริมาณแสงแดด
โดนแดดเต็มวันหรือปลูกในที่ที่แสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 6 ชั่วโมง และสภาพพื้นที่ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก หลีกเลี่ยงความชื้นและห้ามโดนฝนโดยเด็ดขาด

ช่วงอายุ
พืชยืนต้นหรือพืชที่มีช่วงอายุยาวนานกว่า 2 ปี (Perennial)

ระยะเวลาสู่การเก็บเกี่ยว
6 เดือนขึ้นไป

การขยายพันธุ์
เพาะเมล็ด / ปักชำ

วิธีการปลูก
เพาะเมล็ดก่อนลงแปลงปลูกดีที่สุด: หยอดเมล็ดลงในถาดเพาะเมล็ดห่าง 1 นิ้ว กลบให้บางที่สุดไม่ควรเกิน 1-2 มิลลิเมตร หรือใช้นิ้วกดลงไปที่เมล็ดเบาๆโดยให้เมล็ดจมอยู่ในพีทมอส หรืออาจใช้วิธีการเพาะเมล็ดด้วยกระดาษทิชชู่แทน พรมน้ำให้ชุ่มวางในที่ที่มีแสงสว่างและรักษาความชื้นจนกว่าเมล็ดจะงอก ซึ่งอาจใช้ระยะเวลา 7-14 วันโดยประมาณ บางสายพันธุ์อาจใช้เวลามากกว่า 1 เดือน เมื่อต้นกล้าเริ่มงอกให้วางถาดเพาะเมล็ดในที่ที่มีแสงแดดรำไร หลังจากต้นกล้ามีใบเลี้ยง 2-4 ใบให้ทำการย้ายต้นกล้าไปปลูกยังกระถางที่ใหญ่ขึ้นอย่างระมัดระวังโดยอย่าให้รากเสียหาย เมื่อต้นกล้ามีความสูง 2-3 นิ้วให้วางต้นกล้าไว้บริเวณที่มีแสงแดดรำไรภายนอก เพื่อให้ต้นกล้าคุ้นชินกับแสงแดดก่อนทำการย้ายต้นกล้าไปยังสถานที่ปลูกกลางแจ้ง

ทิป: เมล็ดพันธุ์ Lavender ทุกสายพันธุ์จะใช้เวลาในการงอกค่อนข้างนาน เพื่อให้ง่ายต่อการดูแล เราแนะนำให้เพาะเมล็ดก่อนทำการลงปลูกในกระถาง หลังจากที่ต้นกล้าเริ่มแข็งแรงหรือมีความสูง 2-3 นิ้ว ควรนำต้นกล้าออกปลูกภายนอกในสถานที่ที่มีแสงแดดส่องถึง อากาศถ่ายเทได้สะดวก โดยใช้กระถางที่ระบายน้ำได้เร็ว วัสดุปลูกที่มีความร่วนซุยสูงและระบายน้ำได้ดี เนื่องจากต้น Lavender ไม่ชอบให้รากเปียกชื้นเป็นเวลานาน สำหรับสภาพอากาศในประเทศไทย ควรปลูกในกระถางขนาด 8 นิ้วขึ้นไปเป็นอย่างยิ่ง และห้ามโดนฝนโดยเด็ดขาด

เมล็ดพันธุ์ แตงกวา ท่อน 2กรัม ***เมล็ดพันธุ์ คุณภาพของแท้จากเจียไต๋*** เมล็ดพันธุ์คุณภาพเจียไต๋ และตราเครื่องบิน เมล็ดพันธุ์ เป็นธุรกิจเริ่มแรกของเจียไต๋ ด้วยประสบการณ์อันยาวนานเกือบศตวรรษ ธุรกิจเมล็ดพันธุ์ของเจียไต๋มีความแข็งแกร่ง และนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ปรับปรุงผลิตภัณฑ์อย่างสม่ำเสมอ ทำให้เราเป็นหนึ่งในบริษัทรายแรกๆ ของไทย ที่คิดค้น วิจัย และพัฒนาเมล็ดพันธุ์ไฮบริดโดยปัจจุบันเรามีเมล็ดพันธุ์คุณภาพกว่า 485 สายพันธุ์ ส่งออกไปยังตลาดมากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก โดยมีพืชหลักที่เป็นเรือธง ได้แก่ ฟักทอง แตงโม เมล่อน แตงกวา มะระ พริก ข้าวโพด และมะเขือเทศ เจียไต๋ถือเป็นบริษัทเมล็ดพันธุ์ไทยรายแรกๆที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISTA (International Seed Testing Association) หรือสมาคมทดสอบเมล็ดพันธุ์นานาชาติ ซึ่งเป็นที่ยอมรับในวงการค้าเมล็ดพันธุ์ทั่วโลก10 ขั้นตอนการเริ่มต้นเพาะเมล็ดพันธุ์ วิธีการเพาะเมล็ดพันธุ์นั้นสามารถทำได้หลายวิธี อาจจะเพาะในถาดก่อนหรือสามารถหว่านเมล็ดลงแปลงเลยก็ได้ การหว่านเมล็ดพันธุ์ลงแปลงเลยนั้น อัตราการงอกอาจจะไม่ดีเท่าที่ควร แม้กระทั้งเมื่อต้นกล้างอกมาแล้วก็อาจจะต้องเจอกับอากาศร้อนจัด ฝนตก หรืออากาศหนาว ทำให้ต้นกล้าที่กำลังจะโตนั้นพาลตายเอาง่าย ๆ สำหรับขั้นตอนการเพาะเมล็ดสำหรับผู้ที่เริ่มต้นนั้น ผมแนะนำให้เริ่มเพาะในถาดก่อน เพื่อให้เมล็ดที่งอกออกมานั้นแข็งแรงพอสมควรก่อนที่เราจะนำลงแปลง […]

เมล็ดพันธุ์กีวี่ Kiwi seeds เมล็ดกีวี่นำเข้าแท้ 20-100 เมล็ด

เมล็ดพันธุ์กีวี่ Kiwi seeds เมล็ดกีวี่นำเข้าแท้ 20-100 เมล็ด

เมล็ดพันธุ์หญ้าหางกระต่าย
– อัตราการงอก 90%
– สายพันธุ์ OP แท้ (สามารถเก็บเมล็ดปลูกต่อได้)
– ฟรี ‼️คู่มือการเพาะเมล็ด

(สินค้าบรรจุในซองซิปล็อคกันอากาศเข้าอย่างดี)
วันหมดอายุ: **ดูที่หน้าซองสินค้า

** หมายเหตุ **
อัตราการงอกข้างต้นเป็นการทดสอบการเพาะโดยใช้วัสดุพีทมอสในห้องควบคุมเท่านั้น

อัตราการงอกอาจแปรผันตามสภาพแวดล้อมและวิธีการปลูก เช่น ดินที่ใช้หรือวัสดุที่ใช้ วิธีการเพาะ อุปกรณ์ในการเพาะ อุณหภูมิ ความชื้น เป็นต้น

หากเมล็ดพันธุ์ที่ลูกค้าซื้อไปปลูกแล้วได้ผลผลิตไม่ตรงกับเมล็ดพันธุ์ที่ลูกค้าสั่งซื้อ หรือหากมีข้อผิดพลาดประการใดสามารถติดต่อทางร้านได้ทันที

#เมล็ดดอกไม้ #ดอกไม้ #ปลูกดอกไม้ #เมล็ดพันธุ์ดอกไม้ #หางกระต่าย #หญ้าหางกระต่าย

ฤดูปลูกข้าวโพดฝักอ่อน :

– ปลูกได้ตลอดทั้งปีถ้ามีการจัดการดินและน้ำอย่างเหมาะสม

– ข้าวโพดฝักอ่อนใช้เวลาตั้งแต่การปลูกจนถึงเก็บเกี่ยว 43-54 วัน และช่วงเวลาเก็บเกี่ยว 5-10 วัน ขึ้นอยู่กับพันธุ์ จึงสามารถปลูกได้ 4-5 ครั้งต่อปี

– เพื่อให้ได้ผลผลิตฝักอ่อนออกสู่ตลาดอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง จำเป็นต้องวางแผนการปลูกที่เหมาะสม

การเตรียมดินปลูกข้าวโพดฝักอ่อน :

– ไถด้วยผาลสาม 1 ครั้ง ลึก 20-30 เซนติเมตร และตากดิน 7-10 วัน พรวนด้วยผาลเจ็ด 1 ครั้ง ปรับระดับดินให้สม่ำเสมอ แล้วคราดเก็บเศษซากราก เหง้า หัว ไหล ของวัชพืชข้ามปีออกจากแปลง

การวิเคราะห์ดินก่อนปลูก :

– ถ้าดินมีค่าความเป็นกรดด่างต่ำกว่า 5.5ให้หว่านปูนขาวอัตรา 100-200 กิโลกรัมต่อไร่ แล้วพรวนกลบ

– ถ้าดินมีอินทรียวัตถุต่ำกว่า 1.5 ก่อนพรวนดินให้ใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกที่ย่อยสลายดีแล้ว อัตรา 500-1,000 กิโลกรัมต่อไร่

วิธีการปลูกข้าวโพดฝักอ่อน :

– ใช้เมล็ดพันธุ์ที่มีความงอกสูงกว่า 85 เปอร์เซ็นต์ อัตรา 4.5-6.0 กิโลกรัมต่อไร่ จะได้จำนวนต้นที่เหมาะสม 18,000 – 20,000 ต้นต่อไร่

– ปลูกในนาหรือสภาพไร่ ปลูกเป็นแถวคู่ยกร่องสูง 30-40 เซนติเมตร ระยะระหว่างสันร่อง 100-125 เซนติเมตร หยอดเมล็ด

– ข้างร่องทั้งสองข้างแบบสลับฟันปลา ระยะระหว่างหลุม 25-30 เซนติเมตร จำนวน 2-3 เมล็ดต่อหลุม เมื่อข้าวโพดฝักอ่อนอายุ ประมาณ 14 วัน ถอนแยกให้เหลือ 2 ต้นต่อหลุม

– ปลูกบนร่องสวน ให้ปลูกเป็นหลุม ระยะปลูก 50×50 เซนติเมตร จำนวน 3-4 เมล็ดต่อหลุม เมื่อข้าวโพดฝักอ่อนอายุประมาณ 14 วัน ถอนแยกให้เหลือ3 ต้นต่อหลุม

การดูแลรักษาข้าวโพดฝักอ่อน :

1. การให้ปุ๋ยข้าวโพดฝักอ่อน

– ถ้าดินมีอินทรียวัตถุ ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมที่เป็นประโยชน์ต่ำกว่าตามที่ระบุในข้อ 1.2 ก่อนหยอดเมล็ด ให้รองก้นหลุม

– ด้วยปุ๋ยเคมีสูตร 16-20-0 สำหรับดินร่วนหรือดินร่วนเหนียวปนทราย และสูตร 15-15-15 สำหรับดินร่วนปนทราย อัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่

– เมื่อข้าวโพดฝักอ่อนอายุ 20 วัน ให้ปุ๋ยเคมีสูตร 46-0-0 อัตรา 50 กิโลกรัมต่อไร่ หรือสูตร 21-0-0 อัตรา 100 กิโลกรัมต่อไร่

– โดยโรยข้างต้นหรือข้างแถว แล้วพรวนกลบ

2. การให้น้ำ

– ให้น้ำทันทีหลังปลูก และหลังการใส่ปุ๋ยทุกครั้ง หลังจากนั้นให้น้ำตามร่องปลูก ทุก 7-10 วัน

– ถ้าใบข้าวโพดฝักอ่อนเหี่ยวหรือม้วนในช่วงเช้าหรือเย็น แสดงว่าขาดน้ำ ต้องให้น้ำทันที

– ต้องไม่ให้น้ำท่วมขังในแปลงนานเกิน 24 ชั่วโมง เพราะข้าวโพดฝักอ่อนจะชะงักการเจริญเติบโตผลผลิตลดลงและอาจตายได้

3. การถอดช่อดอกตัวผู้

– เมื่อข้าวโพดฝักอ่อนเริ่มออกดอกตัวผู้ ให้ดึงช่อดอกตัวผู้ออกจะทำให้ฝักอ่อนเจริญเติบโตดีและเก็บเกี่ยวได้เร็วขึ้น

– หลังดึงช่อดอกตัวผู้ทิ้งประมาณ 2-5 วัน จะเริ่มเก็บเกี่ยวฝักแรกได้

การปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยว :

– **หลังเก็บเกี่ยวให้รีบนำข้าวโพดฝักอ่อนเข้าที่ร่ม เพื่อไม่ให้ถูกแสงแดดโดยตรง

– ไม่ควรกองข้าวโพดฝักอ่อนสูงเกินไป ควรมีการถ่ายเทอากาศภายในกอง เช่นใช้ลังไม้วางใต้กองข้าวโพดฝักอ่อน เป็นต้น

– สถานที่ปฏิบัติงาน ปอกเปลือกข้าวโพดฝักอ่อนควรยกพื้นสูง เพื่อสะดวกต่อการทำงาน การดูแลความสะอาด และป้องกันการปนเปื้อน

– อุปกรณ์ที่ใช้ เช่น มีด และภาชนะบรรจุข้าวโพดฝักอ่อนที่ปอกเปลือกแล้วต้องสะอาด และมีขนาดเหมาะสม

#ข้าวโพดฝักอ่อน #ฟิลเลย์ ไอซ์เบิร์ก #fillie iceburg #ผักสลัด #เมล็ดดอกซัลเวียม่วง #พริกผี #พริกพิโรธ #ปลูก #ปลูกดอกไม้ #ดอกซัลเวียม่วง #เมล็ดพันธุ์ #ปลูกง่าย #ไม้ดอก