เทวา มนตรา คาถา เกจิ: ไสยศาสตร์สมัยใหม่
ในโลกสมัยใหม่ที่ไสยศาสตร์ถูกมองว่าเป็นความงมงายและล้าหลัง ทว่าการบูชาพระเครื่องเพื่อเสริมโชคลาภบารมี การกราบไหว้ขอเงินขอทอง การทรงเจ้าเข้าผี การนับถือเกจิอาจารย์ และอีกสารพัดพิธีกรรมกลับเฟื่องฟูขึ้นในประเทศไทย สวนทางกับยุคแห่งเทคโนโลยีและความก้าวหน้า ชวนผู้อ่านสำรวจความเชื่อและการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์หลากหลายรูปแบบท่ามกลางกระแสประวัติศาสตร์ตั้งแต่ยุคเศรษฐกิจรุ่งเรืองถึงขีดสุด ไปจนถึงช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ พ.ศ. 2540 รวมทั้งการเกิดขึ้นของทุน(ไทย)นิยมอันเป็นเอกลักษณ์

สังกาส” หรือ “พื้นประวัติศาสตร์เมืองหนองคาย” นี้นับเป็นเอกสาร
สำคัญหนึ่งใน “ฝ่ายวัด” ตามประวัติปรากฏบนใบหลบหลังที่ปิดแผ่นใบลาน เทียบได้ก็
“ฟันเวียง” ของล้านช้างที่พรรณนาเหตุการณ์หรือลำดับกษัตริย์ของราชอาณาจักรในช่วง
ระยะเวลาหนึ่ง เนื้อความของพื้นสังกาสเมืองหนองคายฉบับนี้ครอบคลุมเวลาตั้งแต่สิ้นรัช
กาลที่ ๓ มาจนถึงประมาณกลางรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ซึ่งนับเป็นระยะที่เรียกได้ว่าขาดแคลนเอกสาในท้องถิ่นที่ใช้ศึกษาทางประวัติ
ดินแดนสองฝั่งแม่น้ำโขงบริเวณเวียงจัน-หนองคายอยู่พอสมควร
เนื้อหาสาระสำคัญของพื้นสังกาสเมืองหนองคายนี้ผู้เขียนพอจะจำแนกออกเป็นประเด็นสำคัญทางประวัติศาสตร์ได้ดังเช่น .-
-การมีอำนาจเบ็ดเสร็จของกรุงรัตนโกสินทร์เหนือพื้นที่เวียงจันทั้งสองฝั่งแม่น้ำโขงหลังสงครามเจ้าอนุวงศ์
-พัฒนาการของชุมชนเวียงจันเก่า-เวียงจันใหม่ (ซึ่งก็คือเมืองหนองคาย)เหตุการณ์ที่พระธาตุหลวงเวียงจันและพระธาตุหนองคายพังทลายการปรากฏตัวขึ้นของชาวตะวันตกที่นำไปสู่ยุคอาณานิคมสงครามและความขัดแย้งต่อทางการสยามเช่น ศึกจีนฮ่อ ผีบุญหัวจุก บันทึกถึงลมฟ้าอากาศ น้ำท่วม ดาวหางอันเป็นอุบาทว์ต่าง ๆฯลฯ

☆☆☆ หนังสือใหม่ ในซิล ☆☆☆

ผู้เขียน: ธนานันท์ วงศ์บางพลู
สำนักพิมพ์: โนเบิ้ลบุ๊คส์
จำนวนหน้า: 320 หน้า | ปกอ่อน
พิมพ์ครั้งที่: 1 — ปี 2566
ขนาด: 14.5 × 21 × 1.6 เซนติเมตร
น้ำหนัก: 340 กรัม
รหัสสินค้า: 9786163885760
หมวดหมู่: ประวัติศาสตร์
ทุกสรรพสิ่งในโลก ล้วนแต่เปลี่ยนแปลงดำเนินไปข้างหน้าตามเส้นทางของเวลา มีการก่อกำเนิด เจริญเติบ มีพัฒนาการ แล้วสูญสลาย ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเคยยิ่งใหญ่เพียงใด ดังเช่นจักรวรรดิหรืออาณาจักรทั้งหลายที่เคยยิ่งใหญ่ในอดีต หนังสือ จักรสรรดิโรมันจากรุ่งเรืองสู่ล่มสลาย ถ่ายทอดเรื่องราวของจักรวรรดิโรมันอันเกรียงไกร ที่ครั้งหนึ่งสามารถพิชิตทั่วทวีปยุโรป ข้ามฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยนไปครอบครองแอฟริกา กรีฑาทัพขยายอำนาจจรดถึงทวีปเอเชีย จักรวรรดิและอารยธรรมซึ่งเป็นภาพอันชัดเจนที่สุดของการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป จักรวรรดิอันยิ่งใหญ่ที่ทุกคนขนานนามว่า “จักรวรรดิโรมัน”

บ้าน-พิพิธภัณฑ์ (โดยเอนก นาวิกมูล) หนังสือเก่าตามเวลา สภาพดี ชื่อหนังสือ : บ้าน-พิพิธภัณฑ์ ผู้เขียน : เอนก นาวิกมูล สำนักพิมพ์ : แสงดาว จำนวนหน้า : 328 หน้า สารคดีเล่าเรื่องการฟื้นฟูบ้านพิพิธภัณฑ์ให้กลับมามามีชีวิตอีกครั้ง และสิ่งของต่างที่มีในพิพิธภัณฑ์ ราคา 245 บาท จำหนายโดย สุนทร พิมเสน

รีวิว Amarinbooks (อมรินทร์บุ๊คส์) หนังสือ “มอง” ไม่ได้แปลว่า “เห็น” Ways of Seeing “มอง” ไม่ได้แปลว่า “เห็น” Ways of SeeingWay of Seeing เป็นหนังสือวิพากษ์ศิลปะขึ้นหิ้งที่จอห์น เบอร์เกอร์ นักวิจารณ์ศิลปะระดับตำนาน จะพาคุณสำรวจวิถีแห่งการมองเห็นที่แตกต่างในแต่ละบุคคลผ่านผลงานศิลปะตั้งแต่ยุคภาพวาดไปจนถึงสื่อโฆษณา ความลุ่มลึก และการกระตุกต่อมคิดในแง่มุมต่างๆ ทำให้หนังสือเล่มนี้กลายเป็นแบบเรียนและเอกสารอ้างอิงที่วงการศิลปะทั่วโลกต้องศึกษา และในปี 2022 ที่ฉบับภาษาไทยได้ตีพิมพ์ก็เป็นวาระครบรอบ 50 ปีของหนังสือเล่มนี้พอดีจอห์น เบอรเกอร์ ชี้ให้เราเห็นวิถีการมองอันหลากหลาย ต่อให้เราและคนอื่นจะมองภาพเดียวกัน แต่ภาพที่สะท้อนในสมองย่อมแตกต่างไปตามประสบการณ์ การเรียนรู้หรือสภาพแวดล้อมของแต่ละคน เกิดความหมายที่ทวีคูณ และความจริงใจเวอร์ชันต่างๆ อยู่ที่ว่าเราจะเชื่ออะไรจอห์น เบอร์เกอร์ ยังวิพากษ์งานศิลปะในมิติทางการเมืองและลำดับชั้นทางสังคมไม่ว่าจะเป็นบทบาทของภาพวาดที่ถูกยกย่องเป็นสินทรัพย์เลอค่าที่สงวนไว้เฉพาะชนชั้นสูง การวาดภาพโป๊เปลือยของสตรีราวกับเป็นวัตถุทางเพศให้บุรุษแสดงอำนาจเหนือกว่า หรือขนบภาพวาดสีน้ำมันที่มักใช้เพื่อโอ้อวดความมั่งคั่งของผู้เป็นเจ้าของหนังสือเล่มนี้ยังตีความสื่อโฆษณาที่เชื่อมโยงโดยตรงกับระบบทุนนิยม โดยทำหน้าที่ชักจูงชั้นกลางให้รู้สึกไม่พอใจสภาพปัจจุบัน และกระหายอยากได้สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอ เพื่อหวังจะมีชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งส่วนมากก็เป็นความเพ้อฝันที่เกินจริงการอ่านหนังสือเล่มนี้ไม่ต่างกับการเดินท่องไปยังพิพิธภัณฑ์ศิลปะหลากหลายยุคใหม่ที่เราจะได้ละเลียดชมผลงานพร้อมตีความภาพที่เห็น ซึ่งสะท้อนถึงวิถีมองโลกที่กว้างขึ้น รวมถึงวิถีที่เรามองสะท้อนตัวเองด้วยSophia หมวดสินค้า : หนังสือบทความ สารคดี หนังสือสารคดี สำนักพิมพ์ : […]

รีวิว หนังสือ กินไกลบ้าน: เรื่องเล่าขานร้านอาหารรอบโลก ผู้เขียน: William Sitwell สำนักพิมพ์: มติชน/matichon กินไกลบ้าน: เรื่องเล่าขานร้านอาหารรอบโลก ร้านอาหารยุคออตโตมันหน้าตาเป็นแบบไหน?การปฏิวัติฝรั่งเศสก่อให้เกิดอาหารไฟน์ไดนิงได้อย่างไร?ทำไมซูชิถึงวิ่งบนสายพาน?บนโลกนี้มีร้านอาหารที่เชื้อเชิญให้ลูกค้าไปนั่งทาน …ทั้งๆ ที่ยังไม่หิว!?วิลเลียม ซิตเวลล์ นักเขียนและวิจารณ์อาหารชื่อดัง จะพาทุกท่านย้อนประวัติศาสตร์ 2,000 ปีของการรับประทานอาหารนอกบ้าน โดยไล่เรียงจากยุคโรมันจนถึงยุคปัจจุบัน ตั้งแต่แผงขายอาหารที่เรียบง่ายที่สุด จนถึงภัตตาคารที่วิลิศมาหราที่สุด ตั้งแต่สตรีตฟู้ดที่ธรรมดาสามัญที่สุด จนถึงไฟน์ไดนิงที่วิจิตรตระการตาที่สุด สืบสาวความเป็นมาและพัฒนาการของร้านอาหาร เรื่องราวความทะเยอทะยานของเชฟชื่อก้อง การต่อยอดวิทยาการความรู้ และการปะทะสังสรรค์ทางวัฒนธรรมกำเนิดเป็นภัตตาคาร/อาหารแนวใหม่ ซึ่งเติมเต็มโลกทั้งใบให้อร่อยยิ่งกว่าเดิม ราคา 447 บาท จำหนายโดย ชุมชนนิยมอ่าน ReaderClub

ตำนานเทพกรีกปกรณัมกรีกยังคงความนิยมอยู่เสมอ และได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้หลาย ๆ คนต่อยอดจินตนาการนำไปสร้างเป็นตัวละครในภาพยนตร์

ตำนานเทพกรีกปกรณัมกรีกยังคงความนิยมอยู่เสมอ และได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้หลาย ๆ คนต่อยอดจินตนาการนำไปสร้างเป็นตัวละครในภาพยนตร์ นวนิยาย การ์ตูน หรือแม้แต่เกมคอมพิวเตอร์ นี่คือการรวมตำนานเทพเจ้าและเหล่าวีรบุรุษแบบจัดเต็มกว่าเล่มไหน ๆ มาทำความรู้จักและร่วมสนุกสนานขึ้นไปอีกขั้นด้วยตำนานเทพกรีกที่มีความสัมพันธ์กับดวงดาวต่าง ๆ ในจักรวาล ดาวจักรราศีทั้ง 12 กลุ่ม และตำนานดวงดาวน่ารู้อีกมากมาย

สารบัญ
– ยูเรนัสผู้มาก่อน
– แซทเทิร์นผู้ถูกล้มล้าง
– จูปิเตอร์ผู้ยิ่งใหญ่
– เนปจูนเจ้าแห่งทะเล
– พลูโตผู้ครองปรภพ
– อพอลโลเทพแห่งแสงอาทิตย์
– ไดอาน่าเทพีแห่งดวงจันทร์
– วีนัสเทพีแห่งความรักผู้มากรัก
– มาร์สเทพแห่งสงคราม
– เมอร์คิวรี่เทพแห่งการสื่อสารผู้ว่องไว
ฯลฯ

รายละเอียดหนังสือ
ISBN: 9786165145961 (ปกแข็ง) 360 หน้า
ขนาด: 175 x 243 x 25 มม.น้ำหนัก: 680 กรัม
เนื้อในพิมพ์: ขาวดำ
ชนิดกระดาษ: กระดาษถนอมสายตา
สำนักพิมพ์: ไทยควอลิตี้บุ๊คส์ (2006), บจก.
เดือนปีที่พิมพ์: 2018

เห่เรือ เป็นประเพณีเพิ่งสร้างใหม่สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ราวแผ่นดิน ร.4 ถึง ร.5
สมัยโบราณ ทั้งราชสำนักและราษฎรน่าจะมีเห่เรือ
ขอขมาแม่พระคงคาให้น้ำลดลงตามความเชื่อในศาสนาผี เพื่อชาวบ้านเก็บเกี่ยวข้าวในนาที่สุกเต็มรวง
แต่ราชสำนักสมัยโบราณไม่มีเห่เรือขณะขบวนเรือเคลื่อนที่ ในการเสด็จพยุหยาตราทางชลมารค ซึ่งมีพระเจ้าแผ่นดินประทับบนเรือพระที่นั่ง
ส่วนกาพย์เห่เรือพระนิพนธ์เจ้าฟ้ากุ้ง (เจ้าฟ้าธรรมา
ธิเบศร์) ไม่พบหลักฐานว่าเคยใช้เห่เรือในสมัยอยุธยา (เหมือนที่มีสมัยปัจจุบัน)

เรือพระราชพิธี มีกำเนิดและความเป็นมาหลายพันปีมาแล้ว จากเรือศักดิ์สิทธิ์ในพิธีกรรมทางศาสนาผีของคน
ทุกชาติพันธุ์ในอุษาคเนย์
หลังรับวัฒนธรรมอินเดีย จึงปรับเรือศักดิ์สิทธิ์ในศาสนาผีเข้ากับความเชื่อที่รับมาใหม่ทางศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และศาสนาพุทธ โดยทำหัวเรือเหมือนรูปสัตว์หิมพานต์ ซึ่งเป็นพาหนะของเทพเจ้า
เรือรูปสัตว์ไม่ใช่เรือรบ และไม่ได้ดัดแปลงจากเรือรบ จึงไม่เคยใช้ออกรบทัพจับศึกในสงคราม (ตามคำอธิบายของทางการ)