ลดเพิ่มให้ลูกค้าที่น่ารักทุกเดือน กดรับคูปองได้เลย!!
– ซื้อ 200 ลด 6 บาท
– ซื้อ 400 ลด 11 บาท
– ซื้อ 800 ลด 22 บาท
———————————–
ทั้งร้านเป็นสินค้า มือ1 ค่ะ
ทุกเล่มห่อกันกระแทกและใส่กล่องพัสดุแน่นหนาสุดๆทุกคำสั่งซื้อ
ทางร้านจะพยายามเลือกหนังสือให้อย่างดีที่สุดเพื่อทุกคนนะคะ

✔️ รับเคลมสินค้าที่ผิดพลาดจากการพิมพ์ เกี่ยวข้องกับการอ่านเท่านั้น
เช่น หน้าหาย หน้าสลับ กระดาษขาดภายในซีล
❌ ขอสงวนสิทธิ์ ไม่รับเคลมหนังสือในกรณีสันบุบจากการขนส่ง ซีลแตก ไม่มีซีล
ถ้าลูกค้าต้องการสะสมหนังสือสภาพกริบอย่างกับออกมาจากเครื่องผลิต ทางร้านไม่แนะนำให้สั่งซื้อผ่านช่องทาง online ค่ะ เพราะขนส่งไม่เคยกรุณาเราเลย
———————————–
“”ขอให้มีความสุขกับการอ่านทุกคนนะคะ””

ปล. ขอ 5 ดาว ให้แม่ค้าด้วยนะคะ
ติดปัญหาอะไร ติดต่อทางร้านได้ตลอดค่ะ แม่ค้าใจดี
———————————–

จากนี้ไปฉันจะใจดีกับตัวเอง

หนังสือที่บอกกับผู้อ่านว่าขอให้ผู้อ่านหยุดใจร้ายกับตัวเอง และนับจากนี้ขอให้ใจดีกับตัวเองให้มากขึ้น โดยนำเสนอผ่านการเล่าเรื่องด้วยวิธีต่าง ๆ ทั้งความเรียง ไดอะล็อก (เล่าแบบ Part Love Yourself ในเล่มคนที่เราควรใจดีด้วยที่สุดก็คือตัวเราเอง) และแคนโต้ ในเล่มประกอบด้วยเนื้อหา 4 บท

รีวิว เฟือง (Haguruma) อะคุตะงะวะ เฟือง หรือ Haguruma (1927) เป็นข้อเขียนชิ้นท้ายๆ ในชีวิตของริวโนะสุเกะ อะคุตะงะวะ (Ryunosuke Akutagawa) นักเขียนคนสำคัญของญี่ปุ่น ผลงานชิ้นนี้ได้รับการยกย่องจากฮารูกิ มูราคามิ (Haruki Murakami) ว่าเป็นงานที่เปรียบเหมือนกับการใช้มีดเฉือนตัวเองด้วยความชำนาญ ผู้เขียนรู้ว่าควรจะหยุดลงเมื่อใด ด้วยเพราะมันเป็นส่วนผสมระหว่างศิลปะเรื่องสั้นกับงานเขียนชีวประวัติ โดยการเล่าผ่านสรรพนาม ‘ผม’ นักเขียนผู้มีชื่อย่อว่า A ราคา 200 บาท จำหนายโดย สำนักพิมพ์ซอมบี้บุ๊คส์

“ให้ฉันกินเรื่องราวของเธอนะ” เร็ว ๆ นี้ แถมฟรี ! Bookmark และที่คั่นไดคัต 2 ชิ้น
เฉพาะพิมพ์ครั้งที่ 1 เท่านั้น

ความทรงจำที่เธออยากลืมเลือนน่ะ ฉันจะกินให้หมดเอง !

ความกังวลและความเจ็บปวดที่ดูเหมือนไม่มีหนทางเยียวยาเหล่านี้ กินไปให้หมดเลยได้หรือเปล่านะ
.
“เซว็อล” เพิ่งมาเป็นบรรณารักษ์ได้ไม่นานก็เจอปัญหาหนังสือหายไปอย่างไร้ร่องรอย แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็เจอต้นตอของปัญหา เมื่อเธอได้พบกับ “ฮเยซ็อง” เพื่อนนักเรียนห้องข้าง ๆ ที่กำลังเคี้ยวหนังสือของห้องสมุดอยู่ในร่างสัตว์ประหลาด “ฮวากเว” ที่กินเรื่องราวเพื่อเติมพลังชีวิต และหากกินเรื่องราวจากผู้คน คนเหล่านั้นก็จะลืมเกี่ยวกับเรื่องราวนั้นไปทั้งหมด แต่ไม่เป็นไรหรอก เพราะโลกนี้ไม่ได้มีแต่เรื่องราวที่น่าจดจำสักหน่อย…
.
เมื่อทั้งสองคนตั้งชมรมให้คำปรึกษาขึ้นที่โรงเรียนเพื่อหาทางออกให้ปัญหาที่เกิดขึ้น ก็ได้พบกับเรื่องราวความฝันที่ไม่อาจเป็นจริง ความรักที่ไม่อาจสมหวังและอดีตที่ไม่อาจลืมเลือน
.
“คนที่ต้องตัดสินใจก็คือเธอนั่นละ ลองเผชิญหน้าแล้วตัดสินใจเอาเอง เพราะถึงแม้ว่าจะไม่สมหวัง ก็ไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีค่า…”
.
มย็องโซจ็อง เขียน
พิชยาภา ดีทองหลาง แปล
.
#piccolopublishing
#รสชาติเล็กๆระหว่างบรรทัด

รถไฟขบวนสุดท้ายสู่อิสตันบูล
Last Train to Istanbul

อัยเช คุลิน : เขียน ชาครีย์นรทิพย์ เสวิกุล : แปล
จำนวน 504 หน้า ราคา 430 บาท
ขนาด 14.3×21 cm.

เซลวา เกิดมาโดยคาบช้อนเงินช้อนทอง เธอเป็นคนสวย
กล้าหาญ และเป็นลูกรักที่เปล่งประกายเจิดจรัสในครอบครัว
จนกระทั่งเธอตกหลุมรักกับราฟาเอล อัลฟันดาริ
ถึงแม้ว่าตุรกีจะเป็นดินแดนแห่งความสงบสุขสำหรับชาวยิวมานาน
แต่กระนั้น การสมรสระหว่างหญิงสาวชั้นสูงชาวมุสลิม
กับชายหนุ่มชาวยิวก็ยังเป็นเรื่องต้องห้ามอย่างยิ่ง
แต่ความรักของคนหนุ่มสาวนั้น ใครกันจะขวางกั้นได้
และเซลวากับราฟาเอลก็็ขัดใจบิดามารดา เพื่อแต่งงาน
และหลบหนีไปยังปารีสเพื่อที่จะเสาะหาชีวิตที่สดใส
แต่ก็พบว่า พวกเขาติดกับในเส้นทางการบุกรุกจากกองทัพนาซี

แต่ในห้วงเวลาแห่งความมืดมิด ก็ยังมีแสงสว่างแห่งความหวัง :
นักการทูตตุรกีที่กล้าหาญกลุ่มหนึ่ง
ซึ่งอยู่ภายใต้ความเป็นกลางที่บอบบางของมาตุภูมิ
กำลังวางแผนอุกอาจเพื่อช่วยพาคู่รัก
และชาวยิวผู้บริสุทธิ์นับร้อยชีวิตกลับไปสู่ความปลอดภัย
โดยพวกเขาจะต้องเดินทางข้ามทวีปที่ย่อยยับเพราะสงคราม
ผ่านเขตแดนของศัตรู และยอมเสี่ยงทุกสิ่งทุกอย่าง
เพื่อโอกาสสุดท้ายในอิสรภาพ

“ผมเป็นอะไรสำหรับเธอนะ เด็กอ่านหนังสือที่เธอหลอกใช้ เด็กคู่นอนที่เธอสนุกด้วย
เธอจะส่งผมเข้าห้องรมแก๊สไหม ถ้าเธอไม่อาจทิ้งผมได้ ก็คงอยากกำจัดทิ้ง”

“ผมไม่รู้ว่ารวบรวมความกล้ามาจากไหนในการไปหาเฟราชมิทซ์
การขัดเกลาทางศีลธรรมเกิดขัดแย้งกับตัวเองประมาณหนึ่งหรืออย่างไร
หากการมองด้วยความปรารถนาจะแย่พอๆ กับการตอบสนองความปรารถนา
การตั้งใจจินตนาการอย่างขมีขมันไม่ต่างจากการลงมือทำอย่างที่จินตนาการไว้
แล้วทำไมจะไม่ตอบสนองและลงมือทำไปเลยเล่า ผมรู้สึกวันแล้ววันเล่าว่ามิอาจละความผิดบาปนี้ได้
ผมจึงลงมือทำบาปมันเสียเลย”

มิชาเอล แบร์ก หนุ่มแรกรุ่นวัยสิบห้าพบกับฮันนา ชมิทซ์
พนักงานตรวจตั๋วรถรางในวันที่โรคดีซ่านรุมเร้าเขาจนแทบเอาชีวิตไม่รอด
และนั่นคือจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ลึกซึ้งของทั้งคู่ ความผูกพันก่อตัวและดำเนินไปแบบหน้าต่อหน้า บทต่อบท
เหมือนหนังสือหลายเล่มที่มิชาเอลอ่านให้ฮันนาฟังก่อนร่วมรัก กระทั่งชะตาชีวิตพลิกผันให้ทั้งสองแยกจาก
และกลับมาพบกันอีกครั้งในการไต่สวนคดีที่ฮันนาตกเป็นจำเลยโทษฐานที่ร่วมอยู่ในขบวนการพรรคนาซี
และมิชาเอลคือนักศึกษากฎหมายที่เข้าไปร่วมสังเกตุการณ์ในศาล…

อ่านรักวันโลกร้าว หรือ DER VORLESER (1995) ชวนคุณอ่านหนังสือเพื่อไปสู่การอ่านความรู้สึก
สู่การได้ตระหนักว่าบางเรื่องราวของชีวิต
บางหลืบมุมของหัวใจนั้นคือตัวบทที่ยากจะขานไขหรือถอดรหัสจนอ่านออกได้ง่ายดายเหมือนเนื้อเรื่องในหนัง
สือ

ชื่อหนังสือ : 52 เฮิรตซ์…คลื่นเสียงที่ไม่มีใครได้ยิน
ผู้เขียน : อิโนะอุเอะ โทโมะสุเกะ
ผู้แปล : หนึ่งฤทัย ปราดเปรียว
สำนักพิมพ์ : Piccolo
จำนวนหน้า : 236 หน้า

รีวิว (ของแถมตามรูป) เพราะหัวใจดี ๆ และเชอร์รีเป็นของเธอ / วิน นิมมานวรวุฒิ (โรแมนติกร้าย) / หนังสือใหม่ (Springbooks) extra1 เพราะหัวใจดี ๆ และเชอร์รีเป็นของเธอ วิน นิมมานวรวุฒิ (โรแมนติกร้าย) เขียน สำนักพิมพ์ Springbooks ในวันที่โลกใบนี้แสนขม โปรดเป็นเชอร์รีบนไอศกรีมที่ไม่ลืมความหวานในตัวเอง . ทุกครั้งที่เห็นเชอร์รีลูกสีแดงสดใสเป็นท็อปปิงบนวิปครีมของไอศกรีมซันเด ฉันมักเผลอยิ้มโดยไม่รู้ตัวเสมอ เชอร์รีจึงเปรียบดังสิ่งที่ทำให้ฉันยินดีที่ยังมีชีวิตอยู่ ความสุขที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดหวัง . การมีหัวใจแบบเชอร์รี ไม่ใช่การมองโลกสวยหรือเอาน้ำตาลเคลือบความทุกข์ ไม่ใช่การคิดบวกจนเป็นพิษทำให้มองไม่เห็นความจริง แต่เป็นการมองเห็นความธรรมดาอันแสนพิเศษที่ซ่อนอยู่ในตัวเองและโลกใบนี้ . บางวันเชอร์รีอาจเป็นความกล้าหาญที่จะเดินไปตามเส้นทางที่เลือก ถึงแม้ว่ามันจะยากลำบากเพราะเป็นเรื่องใหม่ . บางวันเชอร์รีอาจเป็นความหวานที่เข้ามาปลอบประโลมใจ เพื่อบาลานซ์ให้ชีวิตอันแสนขมกลมกล่อมขึ้นบ้าง . บางวันเชอร์รีอาจเป็นตัวแทนของความตื่นรู้ และประสบการณ์ที่แลกมาด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัสในอดีต . หวังว่าเธอจะค้นพบ “เชอร์รี” ของตัวเธอเอง ราคา 220 บาท จำหนายโดย booksforfunbooksforfun

หลายๆสิ่งบนโลกนี้เกิดขึ้นได้เพราะการทดลอง ไม่ว่าจะเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่เปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ แต่สำหรับความรักแล้ว คงไม่มีการทดลองที่ชัดเจนนัก และผลที่ได้ออกมาจากการทดลองนั้น คุณจะรู้ได้ก็ต่อเมื่อ คุณรักใครแล้วเท่านั้น

“จดหมายถึง D. (Lettre à D.)” คือหนังสือที่สรรค์สร้างจากเรื่องราวของบุคคลที่มีตัวตนจริง เป็นเรื่องราวที่สะท้อนให้เห็นว่า ท้ายที่สุดแล้วความรักเป็นเรื่อวที่จับต้องได้ มันมีอยู่จริง และพร้อมรอใครสักคนมารักและสัมผัสความสุขจากมัน

จดหมายถึง D. (Lettre à D.) เป็นงานเขียนที่อ็องเดร กอร์ซ (André Gorz) นักปรัชญาชื่อดังชาวออสเตรีย-ฝรั่งเศสได้เขียนทิ้งไว้ นอกจากจะไม่ใช่จดหมายสั่งลาของเขาแล้ว แต่หนังสือเล่มนี้ยังเปรียบเหมือนจดหมายรักฉบับสุดท้ายที่ทำให้โลกรู้ว่าเขารักเธอมากเพียงใด และ “ถ้าเขามีโอกาสมีชีวิตขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เขาก็จะขอรักเธอีกครั้ง”

แมวตื่นสายมักจะโดนแมวตื่นเช้าคิดถึงก่อนเสมอ

แมวยิ้มง่ายใช่ว่าแตกสลายไม่เป็น
บทสนทนาว่าด้วยรอยขีดข่วนของยุคสมัย “เป็นแมวนี่ดีเนอะ น่ารักโดยไม่ต้องพยายาม อยู่เฉย ๆ ก็มีคนมารัก”
ผู้เขียน ใบพัด นบน้อม
ราคา 295

เนื้อหาโดยสังเขป
ขอให้ได้เจอคนที่แอปพริชิเอทในตัวคุณ คนที่อยู่ด้วยแล้วไม่ต้องพรีเซนต์ตัวตนเยอะ ๆ คนที่เพียงนั่งเงียบ ๆ แต่ไม่รู้สึกอึดอัด ไม่ต้องพยายามทำให้เขาสนุกเพื่อความประทับใจชั่วครู่ แต่กัดกินพลังไปตลอดทั้งวัน คนที่บอกว่าเหนียงคุณน่ารักดี คนที่ทำให้คุณรับบทเป็นตัวของตัวเอง ทำให้คุณได้เปล่งแสงอย่างที่คุณเป็น ขอให้คุณได้เจอความสัมพันธ์ที่เหมือนได้อยู่ “บ้าน” บ้านที่รู้สึกอบอุ่น วางใจ ปลอดภัย จะนั่งจะนอนก็ไม่ต้องระวัง ไม่ต้องเขียนคิ้ว เป็นวันที่ได้เปลือยหน้าสด ใบหน้าได้พักจากเครื่องสำอาง เป็นวันที่ได้สวมเสื้อยืดตัวเก่า สีซีด ไม่สวย แต่เนื้อผ้านุ่มนิ่มใส่สบาย…

“แมวยิ้มง่ายใช่ว่าแตกสลายไม่เป็น” เล่มนี้ เป็นงานเขียนไทยร่วมสมัย 30 เรื่องสั้น ๆ พร้อมบทสนทนาว่าด้วยรอยขีดข่วนของยุคสมัย ผลงานล่าสุดจาก “ใบพัด นบน้อม” เมื่อคนอยู่กับเทพ แมวอยู่กับทาส ความสัมพันธ์แมว ๆ ก็เกิดขึ้น บางเรื่องใบพัดพาไปคุยกับบรรดาแมวในคาเฟ่ บางเรื่องแอบฟังแมวคุยกับเพื่อนแมวจรข้างบ้าน แอบมองมนุษย์ผู้หลงรักสัตว์ที่ดูไม่รักเรา แมวที่ถูกทิ้งกลางสายฝน แมวผู้เป็นที่รัก และแมวดำที่ถูกลืม…
รายละเอียดหนังสือ
ISBN : 9786165903134 (ปกอ่อน) 120 หน้า
ขนาดรูปเล่ม : 130 x 190 x 8 มม.
น้ำหนัก : 170 กรัม
เนื้อในพิมพ์ : ขาวดำ
ชนิดกระดาษ : กระดาษถนอมสายตา
สำนักพิมพ์ : ใบพัด นบน้อม
เดือนปีที่พิมพ์ : 4/2022

ผู้เขียน เอโกะ คาโดโนะ
ผู้แปล เมธี ธรรมพิภพ
ISBN 9786168332153

สิบห้าปีผ่านไป กิกิอายุ 35 ปี กลายเป็นคุณแม่ของฝาแฝดหญิงชายชื่อนินิกับโตะโตะ ลูก ๆ ของกิกิก็ถึงวัยที่ต้องตัดสินใจเลือกอนาคตของตัวเองเช่นกัน นินิ ลูกสาวผู้มีนิสัยแก่นแก้ว รักสนุก และชอบทำอะไรไม่เหมือนใคร แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเป็นแม่มดหรือไม่ ในขณะที่โตะโตะ ผู้เป็นลูกชายก็สับสนในตัวตนอย่างหนัก เพราะแม้จะได้ชื่อว่าเป็นลูกของแม่มด แต่ก็ไม่อาจเป็นแม่มดหนึ่งได้ แล้วแม่มดครึ่งเดียวอย่างเขาจะเป็นใคร
มาลุ้นกันว่าเด็ก ๆ ทั้งสองจะเลือกเดินทางในเส้นทางไหน กิกิกับทมโบะ รวมถึงตัวละครตัวอื่น ๆ จะลงเอยอย่างไร
นี่คือการเดินทางของแต่ละคนในบทสรุปของหนังสือชุด แม่มดกิกิผจญภัย ที่หลายคนหลงรัก ผลงานของเอโกะ คาโดโนะ เจ้าของรางวัลฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน ปี 2018 หนังสือที่ดัดแปลงเป็นภาพยนตร์แอนิเมชัน Kiki’s Delivery Service ของสตูดิโอจิบลิ