น้ำมันปาล์มมีคุณสมบัติพิเศษ คือ เมื่อนำมาประกอบอาหาร จะไม่มีกลิ่นหรือรสที่ทำให้อาหารเสียรสชาติ
นอกจากนั้น ยังมีคุณสมบัติที่โดดเด่นเหนือน้ำมันพืชชนิดอื่นๆในด้านการทนความร้อนสูง
จึงเป็นน้ำมันที่เหมาะสำหรับการทอดอาหารแบบทอดท่วมที่อุณหภูมิสูงเป็นระยะเวลานาน
ในขณะที่น้ำมันพืชชนิดอื่น เช่น น้ำมันถั่วเหลือง นั้น ได้มีผลการศึกษาวิจัยพบว่า
เป็นน้ำมันที่ไม่เหมาะสำหรับการทอดอาหารที่มีอุณหภมิสูงเป็นเวลานาน
เพราะมีโอกาสเกิดอนุมูลอิสระและโพลิเมอร์ที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ได้มาก
ซึ่งมีผลกระทบต่อคุณภาพของน้ำมันและสุขภาพของผู้บริโภคเพราะอาจก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้
ด้านคุณค่าทางโภชนาการของน้ำมันปาล์มยังมีความโดดเด่นที่ไม่แพ้กับน้ำมันพืชชนิดอื่น
เนื่องจากการวิจัยทางโภชนาการของน้ำมันปาล์มพบว่า น้ำมันปาล์มเป็นแหล่งรวมวิตามินอีในรูปโทโคฟีรอล (Tocopherol)
ในปริมาณสูงสุด เมื่อเทียบกับน้ำมันพืชชนิดอื่นๆ ซึ่งโทโคฟีรอลนั้นเป็นสารต้านการเกิดออกซิไดซ์ตามธรรมชาติ คือ จะทำให้น้ำมันไม่เหม็นหืนง่าย ป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็ง
นอกจากนี้ น้ำมันปาล์มยังประกอบไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวหนึ่งต่ำแหน่ง (Monounsaturated fatty acid)
คือ กรด oleic 43% และกรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่ง (Polyunsaturated fatty acid) คือ กรด linoleic 11%
ซึ่งเป็นกรดไขมันที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย โดยที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้
ยิ่งไปกว่านั้น ผลการวิจัยยังพบว่า กรด oleic นั้นสามารถลดโคเลสเตอรอลในเลือดได้อีกด้วย