Greenmantle continues the thrilling adventures of Richard Hannay from convalescence following the Battle of Loos, back to London for a vital meeting at the Foreign Office and thence on a top-secret mission across war-torn German-occupied Europe. His mission; to neutralise and destroy a cunning and potentially devastating German plot to foment Holy War in the Islamic Near East, which could ignite a powder-keg and shake the balance of world power and the course of the war. Hannay is assisted by three intrepid companions: the suave, dashing, exotic and romantic Sandy Arbuthnot, the American – John Scantlebury Blenkiron, and the South African Boer Scout – Peter Pienaar.

หนังสือ เล่าเรื่องสยองขวัญชุดที่ 3 ประสบการณ์ขนหัวลุก พบกับเรื่องราวชวนขนหัวลุก หลากหลายความน่ากลัวที่คุณจะต้องสยองไปอีกนาน

ฉบับครบรอบ 12 ปี BESTSELLER ตลอดกาลงานเขียนลากไส้ผู้ชาย ผู้หญิงทุกคนต้องอ่าน

ถ้าเปรียบหนังสือเป็นลูก ผู้ชายเลวกว่าหมาและไม่ได้มาจากดาวอังคาร น่าจะเป็นลูกที่ดื้อและแสบที่สุดที่เคยมี

ลูกสาวคนนี้ถือว่าเธอเป็นคนพูดตรง พูดแรง พูดแต่ละทีเจ็บแสบไปถึงทรวง แต่สิ่งที่เธอพูดคือเรื่องจริง !

แม้จะผ่านมา 12 ปี แต่สิ่งที่เธอเคยพูดไว้มันก็ยังคงจริง นี่สินะคำพูดที่ว่า “เรื่องจริงคือเรื่องเหนือกาลเวลา” และมันทำให้เห็นว่า จะผ่านไปกี่ยุคสมัย ความต่างระหว่างผู้ชายและผู้หญิงยังคงมีอยู่เสมอ

ฉันเคยคิดว่า จะเอาชนะผู้ชายได้โดยการเปลี่ยนแปลงเขา แต่ 12 ปีที่ผ่านมาทำให้รับรู้ว่า เรื่องบางเรื่องแก้ไขไม่ได้ แต่ที่เราทำได้คือ เรียนรู้จากมัน ทำความเข้าใจ และถ้าอยากอยู่ต่อก็ต้องรู้จักยอมรับ

แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ฉันเรียนรู้คือ เราเปลี่ยนแปลงได้

เรายังรักผู้ชายได้ ดีต่อเขาได้ ดูแลเขาได้ แต่ยังลืมรักตัวเองดีต่อตัวเอง และดูแลตัวเองด้วย !

เราเลือกได้ว่าเราจะยังรักเขาต่อไปไหม
เราเลือกได้ว่าเราจะทนอยู่กับคนแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน
เราเลือกได้ว่าอยากจะมีชีวิตที่เหลืออยู่กับใคร
เราเลือกได้ว่าเราจะมีความสุขหรือความทุกข์
และแม้ว่าเราจะเลือกผิด เราก็ยังมีสิทธิ์ที่จะได้เลือกชีวิตตัวเองใหม่อีกครั้ง

ผู้ชายจะเป็นอย่างไรไม่ใช่สาระสำคัญของชีวิตอีกต่อไป ไม่ว่าเขาจะดีหรือเลว เพราะตราบใดที่เรารู้จักความต้องการของตัวเองดีพอเขาจะเป็นคนที่พอดีกับชีวิตเราค่ะ !

คำนิยม

อ่านแล้วก็รู้สึกแสบๆ คันๆ ครั่นเนื้อครั่นตัว อย่างไรบอกไม่ถูก
-พชร สมุทวณิช

เธอคือนักเขียนที่แจ้งเกิดบนศพผู้ชายหลายคน เธอเกิดมาเพื่อวิสามัญฆาตกรรมผู้ชายด้วยตัวหนังสือ
-ชาติ ภิรมย์กุล

อ่านข้อเขียนของเธอบางชิ้นแล้ว ผมรู้สึกคล้ายลุกขึ้นจากเตียงนอนตอนเช้าแล้วเดินไปส่องกระจก
-วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์

ลองอ่านดูก็จะรู้ว่าผู้หญิงก็รู้เหลี่ยมเท่าทันผู้ชายไม่ใช่เล่นอยู่
-วิบูลย์ ลีรัตนขจร
………….
“หมา” เป็นสัตว์ที่ได้รับเกียรติให้อยู่เคียงข้างมนุษย์ (เพศผู้) เสมอ ไม่ว่าจะเรื่องกิน ก็บอกว่า “กินมูมมามอย่างกับหมา” กินเหล้ากยังบอกว่า “เมาเหมือนหมา” พอทะเลาะกันก็ “กัดกันอย่างกับหมา” เมื่อถึงกับเลือดตกยางออกก็พูดว่า “ตายเหมือนหมา (ข้างถนน)” เพราะฉะนั้น จึงไม่น่าแปลกอะไร ถ้า “ผู้ชายจะเลวกว่าหมา” และก็ไม่ได้ดีเด่นขนาดว่า “มาจากดาวอังคาร” หนังสือเล่มนี้จึงเกิดขึ้น! ไม่ใช่เพื่อประณามหรือแค้นเคือง เพียงเพื่อต้องการบอกเล่าเรื่องของผู้ชายที่โลดแล่นอยู่ในชีวิตจริงของผู้หญิงหลายๆ คน และพวกเขายังคงสิงสถิตอยู่บนโลกใบนี้ รอวันให้ผู้หญิงที่ทำบุญมาน้อยได้พบเจอ

แม้จะผ่านมา 12 ปี แต่สิ่งที่เธอเคยพูดไว้มันก็ยังคง “จริง” และมันทำให้เห็นว่าจะผ่านไปกี่ยุคสมัย ความต่างระหว่างผู้ชายและผู้หญิงยังคงมีอยู่เสมอ 12 ปีที่ผ่านมาทำให้เธอรับรู้ว่าเรื่องบางเรื่องแก้ไขไม่ได้ แต่ที่ทำได้คือ “เรียนรู้จากมัน” ทำความเข้าใจ และถ้าอยากอยู่ต่อก็ต้องรู้จัก “ยอมรับ” และ “เราเปลี่ยนแปลงได้” เรายังรักผู้ชายได้ ดีต่อเขาได้ ดูแลเขาได้ แต่ “อย่าลืมรักตัวเอง” ดีต่อตัวเอง และดูแลตัวเองด้วย เราเลือกได้ว่าจะยังรักเขาต่อไปไหม เราเลือกได้ว่าเราจะทนอยู่กับคนแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน เราเลือกได้ว่าเราอยากจะมีชีวิตที่เหลืออยู่กับใคร เราเลือกได้ว่าเราจะมีความสุขหรือความทุกข์ และแม้ว่าเราจะเลือกผิด เราก็ยังมีสิทธิ์ที่จะได้เลือกชีวิตตัวเองใหม่อีกครั้ง!

สารบัญ

– ผู้ชายหัวใจกระดาษ
– ผู้ชายพระเอกมิวสิค
– บ้า
– ติด
– ผู้ชาย…ผู้นำสงสาร
– ผู้ชายแบบป๋าป๋า
– สาว hi-fi – อยากโดนมีเจ้าของ
– ผู้ชายปัจจัย 4
– เปลี่ยนไปนะ
ฯลฯ

ในสักวันหนึ่ง คุณก็คงจะเป็นบุคคลที่ไม่สามารถหายออกไปจากใจใครสักคนได้ อาจจะเป็นบุคคลที่เป็นตัวละครสำคัญทางประวัติศาสตร์ บุคคลที่แสนเยี่ยมยอดของใครคนใดคนหนึ่งก็เป็นได้ ไม่ว่าจะอะไรก็ตาม ก็ดีไปเสียหมด จึงขอเพียงหวังว่าคุณจะได้ถูกบันทึกในหนึ่งหน้ากระดาษของใครสักคนหนึ่ง เพียงต้องการแค่ว่า ต้องการใช้ชีวิตโดยที่ค่อยๆ สะสมความสุขทั้งก้อนใหญ่ ทั้งความสุขก้อนน้อยๆ จากสิ่งรอบตัวไปเรื่อยๆ แม้มันอาจจะไม่ได้เป็นชีวิตที่มีแต่ความสุขเอ่อล้น แต่หากความสุขที่เราสั่งสมมามันค่อยๆ โตขึ้น มันก็จะทำให้เราสามารถมีความสุขได้อย่างสม่าเสมอ ขอเพียงแค่เท่านั้น

ฮารูกิ มูราคามิ ไปพบ ฮายาโอะ คาวาอิ (Murakami) บทสนทนาระหว่างนักเขียนเลื่องชื่อกับนักจิตบำบัดคนสำคัญของญี่ปุ่น เกี่ยวกับปัจเจก รากเหง้า โลกตะวันตก ความดี ความช่วย ความป่วยไข้ เรื่องเล่า ชีวิตสมรส บันทึกนกไขลาน และหนทางที่เราจะก้าวต่อไป มูราคามิ ผมคำว่าคุณค่าที่แท้จริงของนวนิยายกลับอยู่ที่ความช้าของการสื่อสาร ความน้อยนิกของปริมาณข้อมูล และความเหน็ดเหนื่อยของงานที่ทำมือ ตราบที่ยังมีสิ่งเหล่านี้อยู่ นวนิยายไม่น่าจะสูญเสียพลัง เมื่อเวลาผ่านไป เมื่อกระแสน้ำแห่งข้อมูลทางตรงมหาศษลลดหายไปแล้ว ก็จะได้รู้กันว่าอะไรที่ยังหลงเหลืออยู่ คาวาอิ แนวโน้มทั่วไปในปัจจุบันเป็นการทำงานแบบมุ่ง ‘สื่อสารเร็วที่สุด หาข้อมูลให้ได้มากที่สุด ผลิตปริมาณมาก’ และมันสร้างบาดแผลให้กับจิตวิญญาณมนุษย์ พวกเราค้นหาความหมายในการทำสิ่งที่ตรงข้ามโดยสิ้นเชิงกับแนวโน้มนั้น ตามหาการเยียวยาบาดแผลนั้น พอคิดอย่างนี้ก็ดีใจที่รู้สึกถึงจุดร่วมในงานของนักจิตบำบัดกับนักเขียน #ฮารูกิมูราคามิ #ไปพบ #ฮายาโอะคาวาอิ ราคา 198 บาท จำหนายโดย kledthai(เคล็ดไทย)

ฟ้าของเราไม่เคยเหมือนกันสักวันเวลาเช้ายังเห็นพระจันทร์ได้ เรื่องของเราก็คงไม่น่ายาก สงสัยว่า ความรักนี่มันต้องถูกที่ถูกเวลาขนาดนั้นเลยเหรอ คนรอบตัวดูเหมือนจะทำให้มันเป็นแบบเป็นแผนไปหมดมันต้องอย่างนั้นมันต้องอย่างนี้ ต้องทำแบบนี้ก่อน แล้วค่อยทำแบบนั้น… ตอนนั้นคงอยู่ในความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างน่าลำบากใจ เหมือนจะเป็นไปไม่ได้จากคำบอกเล่าของคนรอบตัว แต่คำว่าเป็นไปไม่ได้นั่นใครเป็นคนกำหนด พระอาทิตย์คู่กับกลางวัน พระจันทร์คู่กับกลางคืน จริงเหรอ …เช้าวันนึงตื่นมา ท่ามกลางแสงแดดในตอนเช้า ก็ยังเห็นพระจันทร์อยู่เลย ถึงจะไม่ชัดก็เถอะ แต่อย่างน้อยก็ยังมองเห็นเรื่องของเรามันจะเป็นไม่ได้ขนาดนั้นเลยเหรอ อยากลองดู…บางทีก็มองท้องฟ้าเพื่อตั้งคำถามให้อนาคต บางทีก็มองท้องฟ้าเพื่อหาคำตอบให้อดีต

รวมผลงานเรื่องสั้นเยอรมันร่วมสมัยจากนักเขียนเยอรมันรุ่นใหม่ พวกเขาถ่ายทอดเรื่องราวแตกต่างจากนักเขียนรุ่นก่อนหน้า โทนเรื่องที่เบากว่า สไตล์การเขียนผ่อนคลายกว่า ผลงานของพวกเขาจึงเหมาะกับจิตวิญญาณสากลแห่งยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ให้คุณได้สัมผัสและรับรู้จิตวิญญาณสมัยใหม่ของประเทศที่อยู่ใจกลางยุโรปนี้จากเรื่องสั้นที่ได้คัดสรรมา จะเป็นอย่างไรต้องไปติดตามกันในเล่มเลยค่ะ

ความน่าจะเป็น,ชิทแตก,เสรีนิยมยืนขึ้น,นอนใต้ละอองหนาว,ส่วนที่เคลื่อนไหว,เบสเมนต์ มูน,อุทกภัยในดวงตา,กลับบ้านก่อนค่ำและสระว่ายน้ำหลังเที่ยงคืน, บางลวง โดย ปราบดา หยุ่น

– ความน่าจะเป็น รวมเรื่องสั้นรางวัลซีไรท์ หนังสือมือหนึ่งค้างสต็อค ปกแข็ง ราคาปก 230 เหลือ 195 บาท (ปกอ่อน ราคาปก 185 ขาย 162 บาท)
– ชิทแตก หนังสือมือหนึ่ง ราคาปก 230 เหลือ 201 บาท
– เสรีนิยมยืนขึ้น หนังสือมือหนึ่ง ราคาปก 295 เหลือ 258 บาท
– นอนใต้ละอองหนาว หนังสือมือหนึ่ง ราคาปก 130 เหลือ 117 บาท
– ส่วนที่เคลื่อนไหว หนังสือมือหนึ่งค้างสต็อค เก่าเก็บในโกดัง สันกระดาษมีจุดเหลือง ราคาปก 160 เหลือ 128 บาท
– เบสเมนต์ มูน หนังสือมือหนึ่ง ราคาปก 265 เหลือ 225 บาท
– อุทกภัยในดวงตา หนังสือมือหนึ่ง ราคาปก 200 เหลือ 175 บาท
– บางลวง หนังสือมือหนึ่ง ราคาปก 200 เหลือ 175 บาท
– กลับบ้านก่อนค่ำและสระว่ายน้ำหลังเที่ยงคืน หนังสือมือหนึ่งราคาปก 160 เหลือ 140 บาท
– เรื่องนี้เกิดขึ้นจริง หนังสือมือหนึ่ง ราคาปก 200 เหลือ 175 บาท
– เมืองมุมฉาก หนังสือมือหนึ่งค้างสต็อค เก่าเก็บในโกดัง สันกระดาษมีจุดเหลือง ราคาปก 100 ขาย 90 บาท
– ก่อนหน้านี้ หนังสือมือหนึ่ง ราคาปก 495 เหลือ 435 บาท
– ดอกไม้ที่ไม่สวย หนังสือมือหนึ่ง ราคาปก 200 เหลือ 175 บาท
– ฝนตกตลอดเวลา หนังสือมือสอง ราคาปก 160 ขาย 88 บาท
– น้ำใส่กระโหลก หนังสือมือสอง ราคาปก 150 ขาย 87
– ภาพไม่นิ่ง หนังสือเก่าเก็บมากๆค้างสต็อค สันกระดาษเหลือง ราคาปก 165 ขาย 87 บาท

เรื่องเล่าของเกาะที่ไม่รู้จัก
ได้รับการตั้งชื่อว่า เกาะที่ไม่รู้จัก ก็ออกเดินทางตามหาตัวมันเองงานของซารามากูเป็นงานสะท้อนสังคมในเชิงเปรียบเทียบ กลวิธีการเขียนที่โดดเด่นของเขา?คือการผสมผสานระหว่างคำบรรยายและบทสนทนาจนกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน และไม่ค่อยใช้ เครื่องหมายวรรคตอน บางประโยคก็ยาวเต็มหน้ากระดาษ ทำให้ต้องใช้สมาธิในการอ่าน แต่ก็ได้อรรถรสในการคิดและไต่ตามไปทีละบรรทัด ฉบับแปลเคยตีพิมพ์แล้วสองครั้ง