A069 2.0 , 2.5, 3.0 มิล พลอย นพเก้า ตามตำรา (8 เม็ดขาดเพชร 1 เม็ด) กลม หลังเบี้ย หน้าเหลี่ยม ธรรมชาติแท้100%
***ในชุดพลอยนพเก้าประกอบด้วย***
1. + ทับทิม Ruby
2. + มรกต Emerald
3. + บุษราคัม Yellow Sapphire
4. + ไพลิน Blue Sapphire
5. + โกเมน Garnet
6. + มุกดาหาร Moon Stone
7. + เพทาย Zircon
8. + ไพฑูรย์ (ตาแมว) Chrysoberyl Cat Eye
***9. + เพชรแท้(ไม่มีให้) ร้านจะเป็นพลอยไวท์ โทปาส ธรรมชาติแทนนะคะ
*** ซื้อไปแล้วไม่ถูกใจ ยินดีรับคืนภายใน 7 วันนับจากวันที่ได้รับของค่ะ (สินค้าที่คืนจะต้องอยู่ในสภาพเดิม ไม่เสียหายหรือมีรอยขีดข่วน หรือส่งพลอยอื่นที่คล้ายกันกลับมา)
***สีพลอยในภาพอาจจางหรือเข้มกว่าสีพลอยจริง เพราะถ่ายใกล้แสงและการแสดงผลหน้าจอคอมพิวเตอร์ของแต่ละเครื่องไม่เหมือนกัน
*** พลอยนพเก้า *** รูปทรง : กลม หลังเบี้ย
*** – *** น้ำหนักรวม : – กะรัต
*** สี – *** เกรด เนื้อใสโปร่งแสง
*** ค่าความแข็ง 7-9 โมส์ ***คุณภาพ IF
วิธีดูคุณสมบัติพลอย
เกณฑ์วัดความสะอาดของพลอย
– IF คือ สะอาดมากที่สุดไม่มีตำหนิ เลย
– VVS คือ มีตำหนิเล็กน้อย มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น
– VS คือ มีตำหนิ บ้าง บางจุดสามารถมองเห้นได้ด้วยตาเปล่า
– SI คือ มีตำหนิหลายที สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนด้วย ตาเปล่า
– I1-I2 คือ มีตำหนิมาก มองเห็นได้ชัดเจน
– Opaque คือ ผิวมัน มีตำหนิทึบแสง แสงไม่สามารถส่องผ่านทะลุพลอยได้
– Tansparent คือ มีตำหนิ แสงสามารถส่องผ่านทะลุได้
(สำหรับพลอย เผาใหม่ จะให้เกรด สูงสุดที่ SI)
ประเภทการเผาพลอย
– ไม่เผา คือ พลอยดิบ หรือ พลอยธรรมชาติที่ไม่มีการปรับแต่งสีใดๆ
– เผาเก่า คือการเผาแบบดั้งเดิม โดยไม่มีการใส่สารเคมีใดๆเพิ่มเติม เป็นภูมิความรู้ช่างพลอยไทย มีขั้นตอนยุ่งยาก ใช้ต้นทุนสูงกว่า ราคาตลาดก็จะสูงกว่า คนให้ความนิยมมากกว่า
– เผาใหม่ คือ การเผาสมัยใหม่ ที่มีการใส่ “แก้วตะกั่ว” (Lead Glass) ลงไปในการเผา การเผาด้วยวิธีนี้จะเหมาะกับพลอยที่มีรอยแตกร้าวมาก การใส่แก้วตะกั่วลงไปก็เพื่อประสานรอยแตกให้เรียบเนียนขึ้น บางครั้งอาจมีการใส่โลหะหนักอื่นๆ เช่น บิทมัส การเผาวิธีนี้โดยมากมักใช้กับพลอยทับทิมอาฟริกา
– เผาใหม่ be คือ การเผาโดยใส่สาร “เบอริลเลียม (Be)” ทำให้สีพลอยสวยขึ้น
-เผา ดีฟิว มาจากภาษาอังกฤษ คือ Diffusion treatment นั่นเอง การเผาแบบนี้เป็นการเผาให้สีแพร่ลงไปในเนื้อพลอยในระดับตื้นๆ สีจึงอยู่แค่ส่วนที่ผิวเท่านั้น
ความแข็งของอัญมณี (Hardness)
ความแข็ง (hardness) หมายถึง ระดับความทนทานของแร่ต่อการขีดข่วนให้เป็นรอย โดยมีค่าตั้งแต่ 10 จนไปถึง 1 ซึ่งหมายถึงความแข็งมากที่สุดไปถึงน้อยที่สุดค่ะ
ระดับ ประเภทสายแร่
10 เพชร (Diamond)
9 คอรันดัม (Corundum)
8 โทแพส (Topaz)
7 ควอทซ์ (Quartz)
6 ออร์โธเคลส (Orthoclase)
5 อะพาไทท์ (Apatite)
4 ฟลูออไรท์ (Fluorite)
3 คาลไซด์ (Calcite)
2 ยิปซัม (Gypsum)
1 ทัลค์ (Talc)