ผู้เขียน: เหน่วนเหอ (Nuan He)
สำนักพิมพ์: Rose
หมวดหมู่: หนังสือวาย ยูริ , นิยายวาย นิยายยูริ

โอตาคุวันสิ้นโลก เล่ม 1
เตรียมพร้อมรับมือกับยุควันสิ้นโลก ไปกับ #หลัวซวิน
ทั้งการปลูกผัก เลี้ยงสัตว์และการมีคนรัก(?)
ที่เหมือนคุณได้อ่านหนังสือ How To การใช้ชีวิตในโลกซอมบี้
.
โปรย
หลัวซวิน ใช้ชีวิตวัยหนุ่มอยู่ในยุควันสิ้นโลกอย่างยากลำบาก
เพียงเพราะเขาเป็นประชากรระดับล่างในเขตฐานที่มั่น
เมื่อเก็บหอมรอมริบคริสตัลได้บ้าง อยากใช้ซื้อหาความสุขให้ตัวเองเล็กๆ น้อยๆ ก็ดันพลาดท่า
ยังดีที่ฟ้าให้โอกาสเขาได้กลับมายังช่วงเวลาก่อนหน้าวันสิ้นโลกเพียงสองเดือน
.
สองเดือนก็เพียงพอ สำหรับโอตาคุที่เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากชาติที่แล้วมาอย่างโชกโชนอย่างเขา
ที่อยู่อาศัย อาหารและน้ำ พลังงานทดแทน และอาวุธ!
อะไรๆ ในชาติใหม่นี้ดูเหมือนจะลงตัวไปเสียทุกอย่าง
.
จนกระทั่ง เขา ‘เก็บ’ #เหยียนเฟย ผู้มีพลังพิเศษธาตุโลหะที่บาดเจ็บหนักมาได้ระหว่างทาง
ก็ใบหน้าหวานๆ กับไฝรองน้ำตาเม็ดนั้นของอีกฝ่ายน่ะสิ
เห็นแล้วใจสั่นหวั่นไหว และพาให้ควบคุมตัวเองไม่ได้ทุกทีเลย!
.
_____________________________________
.
โอตาคุวันสิ้นโลก เล่ม 1
#หน่วนเหอ เขียน
#เมิ่งเหวิน แปล
ราคา 405 บาท
จำนวน 396 หน้า
7 เล่มจบ
ของพรีเมี่ยม จิบิไดคัต 2 ตัว , การ์ดพลาสติก 1 ชิ้น , ที่คั่นพลาสติกไดคัต 1 ชิ้น (เฉพาะพิมพ์ 1 เท่านั้น)

B.โอตาคุวันสิ้นโลก เล่ม 2
นิยายแนววันสิ้นโลกที่ในตลาดยังไม่ค่อยมีใครทำ เน้นไปที่การเตรียมพร้อมรับมือกับยุควันสิ้นโลก ทั้งการปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ การใช้ชีวิตในโลกซอมบี้
รายละเอียด : โอตาคุวันสิ้นโลก เล่ม 2
โอตาคุวันสิ้นโลก เล่ม 2

ความสัมพันธ์ในยุควันสิ้นโลกของหลัวซวิน
และเพื่อนร่วมบ้านอย่างเหยียนเฟยพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ
พวกเขาทำงาน ปลูกผัก และเลี้ยงเจ้าหมาตัวน้อยด้วยกันอย่างสงบสุข
แต่หลัวซวินกลับหนักใจ เพราะยิ่งใกล้ ยิ่งหวั่นไหว
เขาทนกับความรู้สึกอึดอัดว้าวุ่นอยู่ฝ่ายเดียวไม่ไหวแล้ว
ตัดสินใจเปิดดอกเคลียร์ความสัมพันธ์แสนคลุมเครือนี้ให้มันชัดเจนไปเลย!

ด้านชีวิตของหนุ่มๆ ชั้นสิบหกดูเหมือนจะมีดวงพบเจอปัญหาไม่จบไม่สิ้น
พวกเขาได้พบกับเพื่อนร่วมชั้นคนใหม่อย่างจางซู่ หนุ่มหน้าสวยผู้มีพลังพิเศษธาตุลม
ที่พร้อมจะสร้างปัญหาอยู่ตลอดเวลา!
แล้วทำไมกลางฐานที่มั่นถึงได้มีซอมบี้ปรากฏตัวขึ้นได้!!
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันละเนี่ย!!

คำนำ : โอตาคุวันสิ้นโลก เล่ม 2
หลัวซวินผู้ดิ้นรนในโลกที่มีแต่ซอมบี้ตายแล้วก็วนกลับมาก่อนเกิดเหตุการณ์
วันสิ้นโลก เขาใช้ชีวิตในแต่ละวันหมดไปกับการหาวิธีมีชีวิต สร้างที่อยู่ ปลูกผัก
สะสมข้าวของ ตุนเสบียง ติดโซลาร์เซลล์ เลี้ยงหมา และสุดท้ายก็เก็บผู้บาดเจ็บ
มาได้หนึ่งคนชื่อเอี๋ยนเฟย ซึ่งเอี๋ยนเฟยหน้าตาดีมากมาจากครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์
แต่ร่ำรวยและมีพลังพิเศษเกี่ยวกับโลหะ ทั้งสองคนเลี้ยงเด็กน้อยลูกของแม่เลี้ยง
กับพ่อของเอี๋ยนเฟยเป็นลูก พ่อหนูมีพลังพิเศษ
จำนวนหน้า
356 หน้า
ประเภทสินค้า
Books
ขนาด
14.5 x 20.9 x 2 CM
น้ำหนัก
0.472 KG
บาร์โค้ด
9786161846626

C. โอตาคุวันสิ้นโลก เล่ม 3

D. โอตาคุวันสิ้นโลก เล่ม 4

E. โอตาคุวันสิ้นโลก เล่ม 5

F. โอตาคุวันสิ้นโลก เล่ม 6

G.โอตาคุวันสิ้นโลก เล่ม 7

H. Vbox โอตาคุวันสิ้นโลก เล่ม 7

รีวิว The Why Cafe’ คาเฟ่สำหรับคนหลงทาง : สำนักพิมพ์ Be(ing) The Why Cafe’ คาเฟ่สำหรับคนหลงทาง ผู้เขียน: จอห์น พี. สเตรเลกกี สำนักพิมพ์: Be(ing) (บีอิ้ง) หมวดหมู่: จิตวิทยา การพัฒนาตัวเอง , การพัฒนาตัวเอง how to จำนวนหน้า 184 หน้า ประเภทสินค้า Books ขนาด 12.7 x 18.4 x 1 CM น้ำหนัก 0.184 KG บาร์โค้ด 9786168293065 รายละเอียด : The Why Cafe’ คาเฟ่สำหรับคนหลงทาง The Why Cafe’ คาเฟ่สำหรับคนหลงทาง The Why […]

3 ปีผ่านไป แมวน้อยมิโลกับแม่ย้ายไปอยู่เมืองชายทะเลวันหนึ่ง มิโลพบลูกเพนกวินจักรพรรดิบนชายหาดลูกเพนกวินถูกลักพาตัวมาจากขั้วโลกใต้มันอยากกลับบ้านและขอให้มิโลช่วยมิโลกับแม่จึงพาเพนกวินน้อยเดินทางไปยังขั้วโลกใต้อันหนาวเหน็บและระหว่างทางก็ได้รู้จักกับสัตว์ป่าชนิดอื่นๆ อีกมากมาย

ฤกษ์งามยามปารีสเล่มนี้ ถ่ายทอดเรื่องราวของคู่รักหนุ่มสาวแฮดลีย์และเฮมิงเวย์กับการทำตามความฝันให้เป็นจริง ณ ปารีส ต้นศตวรรษที่ 20 ในเวลาที่ค่าครองชีพราคาถูก ดึงดูดเหล่านักเขียนให้มาใช้ชีวิตในเมืองที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายเสน่ห์ที่ยากจะลืม! 6 ปีแรกกับการพยายามเป็นนักเขียนของเออร์เนสต์ เฮมิงเวย์หนุ่มกับภรรยาสาวที่ยืนอยู่เคียงข้างกัน และเหล่านักเขียนโมเดิร์นนิสต์ที่กำลังสร้างผลงาน…

Destiny: ขวัญลิขิต
โดย Lemoncake
เล่มหลักความยาวประมาณ 300 หน้า

ของแถม:
-โปสการ์ด
-ที่คั่นหนังสือ

เกี่ยวกับหนังสือ:
Nothing happens by chance, it is a DESTINY.
แม้ทุกอย่างจะดูเหมือนเรื่องบังเอิญ สำหรับฉัน ฉันเชื่อว่ามันคือพรหมลิขิต

“แล้วสั่งกาแฟหวานน้อย ทำไมได้หวานร้อย”

หนังสือ สิทธารถะ (SIDDHARTHA) – สยามปริทัศน์ สิทธารถะ (SIDDHARTHA) สิทธารถะ บรรลุธรรมพบความสงบ เพราะเขาเรียนรู้ธรรมชาติที่แท้ของตน เรียนรู้จากกัลยาณมิตร และเรียนรู้จากแม่น้ำ มีหลายคนที่หยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา ด้วยความรู้สึกฉงนกับชื่อเรื่อง สิทธารถะ ว่ามีความเกี่ยวข้องอะไรกับ “สิทธัตถะ” นามของ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก่อนเสด็จออกผนวช ขณะที่บางคนถึงกับสับสนระหว่างสองชื่อนี้ และคิดไปว่านี่คือหนังสือนวนิยายอิงพุทธประวัติเรื่องหนึ่งที่แต่งขึ้นโดยชาวตะวันตก สิทธารถะ เป็นเรื่องราวการออกบวชของมานพสองสหายจากตระกูลพราหมณ์ คือ สิทธารถะ กับโควินทะ ทั้งคู่ได้บําเพ็ญพรตมุ่งมั่น เพื่อแสวงหาสัจธรรม กระทั่งได้พบพระพุทธเจ้า โควินทะตัดสินใจบวชในพุทธศาสนา แม้ตั้งใจปฏิบัติและยึดมั่นในคําสอนของพระพุทธองค์ แต่หาได้ตระหนักในสัจธรรม เข้าถึงการบรรลุธรรมอันเป็นเป้าหมายสูงสุดไม่ ในขณะที่สิทธารถะปฏิเสธที่จะเดินตามรอยพระพุทธองค์ เขาได้หันไปเรียนรู้ในทางโลก แสวงหาธรรมและสัจจะด้วยวิถีทางของเขาเอง แต่กลับบรรลุธรรมที่ตั้งใจไว้ได้ในที่สุด เฮอร์มานน์ เฮสเส นักประพันธ์ชาวเยอรมัน ผู้จรดปลายปากกาให้ สิทธารถะ เป็นภาพสะท้อนทัศนะของเฮสเสได้เป็นอย่างดี นั่นคือ การเป็นนักแสวงหาปัญญาได้ด้วยตนเอง หากศึกษาประวัติในวัยเด็กของเฮสเส จะพบว่า เขาเคยเป็นขบถต่อค่านิยมของครอบครัวที่ปรารถนาให้เขาเจริญรอยตามบิดา ด้วยการเป็นนักสอนศาสนา เขาปฏิเสธการเข้าเรียนในระบบโรงเรียน แต่กลับใช้วิธีศึกษาด้วยตนเอง ทั้งผ่านงานอาชีพหลายอย่าง จนในที่สุดมาประสบผลสําเร็จในอาชีพนักเขียน ผลงานหลายเรื่องของเขาจึงไม่เพียงแต่ให้แง่คิดและแนวทางแก่นักอ่านทั่วไปเท่านั้น ยังสามารถหยั่งลึกถึงโลกแห่งการแสวงหาทางจิตใจอีกด้วย […]

รายละเอียด : เขื่อนกั้นแปซิฟิก

มาร์เกอริต ดูราส เขียน Un barrage contre le Pacifique ในปี ค.ศ. 1950 โดยใช้ประสบการณ์ตรงในอินโดจีนของฝรั่งเศส ที่ซึ่งเธอเคยดำรงชีวิตเมื่อเยาว์วัยมาบอกเล่าเรื่องราวของครอบครัวชาวฝรั่งเศสที่ย้ายมาลงหลักปักฐานยังดินแดนกัมพูชา ชีวิตลำเค็ญเริ่มขึ้นเมื่อสามีเสียชีวิตไป ภรรยาหม้ายกับลูกชายและลูกสาวต้องต่อกรกับเล่ห์กลของเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งพยายามจะยึดที่ดินในเขตสัมปทานคืนไป
นวนิยายเด่นของดูราสที่วิพากษ์เจ้าอาณานิคมอย่างถึงแก่น เปรียบดินแดนใต้ปกครองได้กับซ่องโสเภณีขนาดมโหฬาร เป็นสวรรค์ของพวกค้างคาวดูดเลือดแห่งวงการธนาคาร ยางพารา และข้าว ชุกชุมด้วยการกดขี่ข่มเหงทั้งชาวพื้นเมืองและคนขาวที่ตกยาก การคอร์รัปชั่นและค้าของเถื่อนแทบจะกลายเป็นเรื่องปกติ กล่าวกันว่าผลงานเรื่องนี้ทำให้ดูราสไม่ได้รับพิจารณาเสนอชื่อเป็นสมาชิกราชบัณฑิตยสภาฝรั่งเศสUn barrage contre le Pacifique ได้รับการสร้างเป็นภาพยนตร์มาแล้ว 2 ครั้ง ในชื่อ This Angry Age (1958) และ The Sea Wall (2008)

นวนิยายจากประสบการณ์จริงสุดระทึกในสงครามโลกครั้งที่ 2 ภารกิจบินลาดตระเวนเหนือเมืองอาร์ราสเพื่อถ่ายภาพแสนยานุภาพรถถังเยอรมันเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 1940 เมืองที่ถูกยึดครองกำลังถูกเผาลุกเป็นไฟ ในขณะที่พวกเขาต้องบินระดับต่ำฝ่าเข้าไปในดงกระสุนของศัตรู นับเป็นภารกิจอุทิศชีวิตที่ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า “ครับ ท่านผู้บัญชาการ” แม้ว่ากองบินนี้จะมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 17 ทีม จาก 23 ทีม!

รายละเอียด : ลาม็องต์ (L’amant)

รักแรกผลิที่ต้องคอยลอบเร้นพบกันของสาวน้อยชาวฝรั่งเศสกับหนุ่มใหญ่ชาวจีน เกิดขึ้นในดินแดนเวียดนามยุคที่ยังตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส เขียนจากประสบการณ์ในวัยแตกสาวของดูราส นับเป็นนวนิยายยอดนิยมอันลือลั่นของเธอ เฉพาะในประเทศฝรั่งเศสขายได้มากกว่า 1,600,000 เล่มแล้ว ได้รับรางวัลทรงเกียรติ Prix Goncourt (1984) และ Prix-Ritz-Paris-Hemingway (1986) ได้รับการแปลแล้ว 44 ภาษา และได้รับการสร้างเป็นภาพยนตร์ในชื่อ The Lover (1992) โดยผู้กำกับฝีมือเยี่ยม Jean-Jacques Annaud นอกจากนี้ ยังได้รับการดัดแปลงเป็น Graphic Novel อีกด้วย
ภูมิหลังของดูราสกลายเป็นเชื้อที่ทำให้ผู้ประพันธ์กลืนไปกับผู้เล่า ท่วงทำนองแบบอัตชีวประวัติช่วงชิงพื้นที่ของการเป็นเรื่องเล่าแบบนวนิยาย ตัวผู้ประพันธ์นั้นโคลงเคลงไปมาระหว่างเรื่องจริงของตนเองในฐานะผู้เล่าเรื่องจากประสบการณ์ตรง และเรื่องจริงของตนในฐานะผู้แต่งเรื่องที่ลงลายเซ็นในแต่ละคำแต่ละประโยค พาผู้อ่านล่องไปกับเรือแพที่จะลอยข้ามฝั่ง ผ่านนานาทัศ

ตราบสายลม… ยังหายใจ
…ตราบสายลมยังหายใจ แล้วไยเราจะยอมแพ้…บทกวีฝรั่งเศสคอยกระตุ้นเตือนใจ ให้เขาและเธอยืนหยัดเพื่อรัก ฉากความทรงจำขื่นขมระคนหวานล้ำ อาจดูเปราะบาง แต่แท้จริงแข็งแกร่ง ท่ามกลางธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของญี่ปุ่นยุคก่อนสงคราม นวนิยายซึ่งสร้างความประทับใจให้นักอ่านชาวญี่ปุ่นมากมายและเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดภาพยนตร์อนิเมะเรื่องเยี่ยม The Wind Rises หรือ ปีกแห่งฝัน วันแห่งรัก จาก สตูดิโอ Gibli อันโด่งดัง

นาวานรก
นาวานรก ผลงานชิ้นเอกจากปลายปากกาของ โคบายาชิ ทาคิจิ นักเขียนฝ่าซ้ายชื่อดังผู้เป็นหัวหอกบุกเบิกวรรณกรรมชนชั้นกรรมาชีพของญี่ปุ่นนาวานรก ผลงานชิ้นเอกจากปลายปากกาของ โคบายาชิ ทาคิจิ นักเขียนฝ่ายซ้ายชื่อดังผู้เป็นหัวหอกบุกเบิกวรรณกรรมชนชั้นกรรมาชีพของญี่ปุ่นพบกับการตีแผ่ด้านมืดของประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นในรัชสมัยไทโช-โชวะ เรื่องราวของแรงงานที่ต้องตรากตรำทำงานบนเรือโรงงานปูท่ามกลางสภาวะอันโหดร้ายและอยุติธรรม ถูกเอารัดเอาเปรียบจากอำนาจทุนนิยมและรัฐ จนกลายเป็นหนังสือต้องห้ามในญี่ปุ่นในยุคหนึ่ง กระนั้นก็ยังขายดีตลอดกาล นิยมอ่านกันแพร่หลายในหมู่คนหนุ่มสาวมาจนถึงปัจจุบัน และถูกนำไปดัดแปลงเป็นละครเวที ภาพยนตร์ และมังงะอยู่หลายครั้ง

รวมเรื่องสั้น ชุด หลอน
ความรู้สึก ‘หลอน’ ของคุณเกิดจากประสบการณ์แบบไหนเพราะละเมอเพ้อว่าหน้ากากแสยะยิ้มให้ เพราะรู้สึกเหมือนเงามืดวูบไหวในมุมห้องสลัว เพราะเห็นภาพสะท้อนบนกระจกฝ้ามัวเป็นใบหน้าคนอื่น…พบกับนิยามความ ‘หลอน’ จากเรื่องสั้นและความเรียงโดย เอโดะงาวะ รัมโป นักเขียนนวนิยายสยองขวัญและสืบสวนสอบสวนผู้ยิ่งใหญ่แห่งญี่ปุ่น สะท้อนกระแสความนิยมของสังคมญี่ปุ่นในยุคแห่งอิสรเสรี ที่ผู้คนแสวงหาสิ่งแปลกพิสดารวนเวียนอยู่กับแรงปรารถนา กามารมณ์ และความวิปริตผิดครรลองกลายเป็นกับดักอันหอมหวานเย้ายวนให้มนุษย์หลงมัวเมาไม่สิ้นสุด

ยอดนักสืบอาเกจิ โคโกะโร ตอน คดีสุดท้ายของยอดนักสิบ
ต้องขอสารภาพว่าจากหลายตอนที่เคยเอาใจช่วย ‘ยอดนักสืบอาเคจิ’ ให้ไขคดีจนกระจ่างได้ กลับกลายเป็นพลาดพลั้งผลักไสตนเองไปเอาใจช่วย ‘บุรุษเร้นเงา’ ผู้เป็นดั่งอัจฉริยบุคคลในโลกมืดของอาชญากรรมเอาเสียได้ ซ้ำยังอยากจะทำความรู้จักให้สนิทแน่นแฟ้นฉันมิตรกับอาชญากรอีกหลายคนในเรื่องด้วยวิธีการก่ออาชญากรรมของแต่ละคนนั้นช่างสร้างสรรค์อย่างแปลงประหลาดล้ำลึกและดำดิ่งสุดมืดมนต่อกระผม ที่คงมีหัวใจหม่นไม่น้อยไปกว่ากัน และแล้ว เส้นทางชีวิตของยอดนักสืบที่ต้องเผชิญกับคดีปริศนาครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ดำเนินมาถึงคดีสุดท้าย คราวนี้อาเคจิต้องชิงไหวชิงพริบกับ ‘บุรุษเร้นเงา’ อาชญากรตัวฉกาจผู้ร่ำรวยเงินทอง และรอบจัดด้วยกลอุบาย ซ้ำยังนิยมขุดคุ้ยความลับของผู้คน จึงพบเห็นด้านมืดอันวิปริตพิสดารอยู่เสมอ ในเล่มนี้ ผู้อ่านจะได้พบโลกแห่งจินตนาการพันลึกแบบไร้ขีดจำกัดของ เอโดะงาวะ รัมโป นักเขียนผู้สร้างกระแสนิยม ‘ Erotic Grotesque Nonsense’ ขึ้นในสังคมญี่ปุ่นหลังสงคราม
ยอดนักสืบ อาเคจิ โคโกะโร ซีรีส์ชื่อดังจากปลายปากกาของเอโดะงาวะ รัมโป บิดาแห่งนวนิยายสืบสวนสยองขวัญของญี่ปุ่น ที่มาพร้อมกับการสืบสวนคดีอันน่าระทึก ความรู้สึกขนพองสยองเกล้า และรสชาติของความอีโรติกที่ปลายลิ้นรับประกันความสนุกโดย เอโดะงาวะ รัมโป นักเขียนผู้มีนามเป็นที่มาของชื่อ เอโดงาวะ โคนัน จากการ์ตูน ‘ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน’

ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ /ผู้เขียน ฮิงาชิโนะ เคโงะ /น้ำพุสำนักพิมพ์ /หมวดวรรณกรรมแปล

ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ นิยายแปล หนังสือขายดี โดย ฮิงาชิโนะ เคโงะ บอกเล่าเรื่องราวของหัวขโมย 3 คน ที่หลงเข้าไปใน ร้านชำของคุณนามิยะ

รายละเอียด : ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ โดย ฮิงาชิโนะ เคโงะ
ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ หนังสือดี กับเรื่องราวให้แง่คิดดีๆ กับชีวิต โดย ฮิงาชิโนะ เคโงะ

ในนาทีนี้ หนังสือที่เป็นที่โจทย์ขานกันเล่มหนึ่ง คือ “ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ” ของผู้แต่งนิยายแนวสืบสวน ฮิงาชิโนะ เคโงะ นอกจากนี้ยังติดอันดับขายดีในร้านหนังสือนายอินทร์อยู่หลายสัปดาห์ และยังขายดีมาเรื่อยๆ ทางนายอินทร์จึงขอแนะนำเรื่องนี้ เนื่องจากมีการดำเนินเรื่องที่ไม่เหมือนใคร อ่านคำโปรยแล้วอาจจะดูธรรมดา แต่หนังสือปาฏิหารย์ร้านชำของคุณนามิยะ เล่มนี้นั้น ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ด้วยยอดขาย กว่า 12 ล้านเล่ม และถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ ทั้งในญี่ปุ่น และจีนอีกด้วย

หนังสือเล่มนี้บอกเล่าเรื่องราวของหัวขโมย 3 คน ที่หลงเข้ามาใน ร้านชำของคุณนามิยะ ที่ปิดตายไปสามสิบสามปีแล้ว และทั้ง 3 ก็ได้รับจดหมาย ที่ต้องการปรึกษาปัญหา ของหญิงสาวจากอดีต ใช่จากอดีตเมื่อ 40 ปีมาแล้ว จากการเริ่มตอบจดหมายฉบับแรกหัวขโมยทั้ง 3 ก็ได้รับจดหมาย โต้ตอบกลับไปมา พร้อมทั้งให้คำแนะนำจากอนาคต ใช่แต่หญิงสาวคนนี้เพียงคนเดียว ทั้งสามยังตอบคำถาม และให้แรงบันดาลใจ กับหลายๆ คนที่ส่งปัญหามาถึงคุณนามิยะ เรื่องราวความสนุก มันไม่ใช่แค่การตอบคำถามของทั้งสามคน หากแต่อยู่ที่การผูกโยงเรื่องราว ของทั้งสามกับตัวละครที่ส่งจดหมายมาหา นอกจากนี้ ยังเชื่อมโยงให้เห็นถึงผลของคำตอบของชายหนุ่มทั้งสามอีกด้วย

…เล่มนี้บอกเล่าเรื่องราวการบรรจบกันของเวลาปัจจุบัน กับอดีตเมื่อ 33 ปีที่แล้วโดยได้เชื่อมโยงเรื่องราวของตัวละครทุกตัวเข้าด้วยกันที่ร้านชำของคุณนามิยะ “ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ” มียอดขายกว่า12 ล้านเล่มทั่วโลก และสร้างเป็นภาพยนตร์ทั้งในญี่ปุ่นและจีนอีกด้วย

คำนำ : ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ โดย ฮิงาชิโนะ เคโงะ
หนังสือนิยายเล่มนี้ เริ่มต้นเรื่องราวแบบธรรมดาๆ แต่ตอนจบนั้น ลึกซึ้งกินใจนักอ่านหลายๆ คน จนมียอดพิมพ์กว่า 12 ล้านเล่มทั่วโลก ร้านนายอินทร์จึงขอแนะนำนิยายเรื่องนี้ ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ ให้เป็นนิยายที่ห้ามพลาดเลยทีเดียว

เนื้อหาปกหลัง : ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ โดย ฮิงาชิโนะ เคโงะ
ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ

ในความเงียบสงัดยามวิกาล หัวขโมยสามคนก่อเหตุและเข้าไปซ่อนตัวในร้านชำร้าง ทันใดนั้นก็มีจดหมายลึกลับสอดเข้ามาทางช่องประตู ใครบางคนเขียนเล่าปัญหาชีวิตและขอคำแนะนำจากเจ้าของร้านชำ หัวขโมยทั้งสามจึงนึกสนุกและสวมรอยเขียนตอบเอง แต่จู่ ๆ จดหมายที่เขียนก็หายวับไป…แทนที่ด้วยจดหมายฉบับใหม่ ปรากฏว่าจดหมายที่ว่านั้นถูกส่งมาจากอดีตเมื่อ 40 ปีก่อน

พวกเขาสงสัยว่าร้านชำแห่งนี้น่าจะมีกลไกบางอย่างทำให้ติดต่อกับคนในอีกยุคสมัยได้ และคนที่น่าจะรู้ความลับนี้ก็คือ คุณนามิยะ เจ้าของร้านแต่ปัญหาคือเขาจากโลกนี้ไปหลายสิบปีแล้ว!

เมื่อมิติแห่งกาลเวลามาบรรจบ…ร้านชำที่เคยช่วยเหลือผู้คนมากมายผ่านจดหมายจะทำให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นอีกครั้งได้หรือไม่

รีวิวโดยบุ๊คเมท : ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ โดย ฮิงาชิโนะ เคโงะ
ขอเอาเล่มนี้ขึ้นหิ้งไปอีกเรื่อง !! จะเริ่มเล่ายังไงดี เพราะไทม์ไลน์เรื่องเอาจริงๆ คนหัวช้าแบบเราน่าจะต้องอ่านสักสองรอบ

ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ..ความน่าสนใจของเล่มนี้ คือตอนนี้มันขึ้นอันดับหนึ่งที่หน้าร้านนายอินทร์ และเป็นผลงานของ ฮิงาชิโนะ เคโงะ นักเขียนแนวสืบสวน แต่เล่มนี้มันเป็นแนวอุ่นๆ ดราม่าๆ มีเรื่องราวเกี่ยวกับกาลเวลาเข้ามาพัวพัน เอาง่ายๆ จุดเริ่มต้นคือ มีหัวขโมย 3 คน หลังจากขโมยของก็หาที่กบดานเพื่อรอจังหวะจะหนี โดยเข้าไปหลบที่ร้านชำนามิยะ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่รกร้างห่างไกลผู้คน
ร้านนี้ในอดีตนอกเหนือจากร้านชำ คือร้านรับปรึกษาปัญหากลุ้มใจ โดยคนที่มีปัญหาจะเขียนจดหมายมาหย่อนไว้ที่ร้าน จากนั้นคุณตาเจ้าของร้านจะหยิบคำถามกลุ้มใจของทุกคนมาเขียนตอบกลับ โดยจะหย่อนคำตอบไว้ถังใส่นมหลังร้าน

ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะนั่น คือร้านนี้สามารถเชื่อมโยงปัจจุบันกับอดีตได้ โดยวันที่หัวขโมย 3 คน แอบเข้ามาคือวันครบรอบวันตาย 33 ปีของคุณตาเจ้าของร้าน และปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น เพราะหัวขโมยทั้ง 3 ได้รับจดหมายจากคนในอดีตที่เขียนส่งเข้ามา

ยิ่งกว่านั้น พวกขโมยยังตอบคำถามเหล่านั้นกลับไปอีกด้วย และคำตอบของพวกเขา ส่งผลเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนในอดีต เหนือสิ่งอื่นใด ขณะที่ขโมยเขียนตอบคำถาม สิ่งเหล่านี้ได้เปลี่ยนแปลงตัวของพวกเขาไปทีละนิด อย่างที่คนอ่านจะแอบสังเกตได้

เนื้อเรื่องเล่าสลับไปมา ระหว่างอดีตเมื่อ 40 ปีที่แล้วกับปัจจุบัน นึกสภาพคนจากสองยุคสมัยคุยกัน ความเหลื่อมล้ำทางเทคโนโลยี การเมือง สังคม และการที่ได้เห็นผู้คนทั้งในจากอดีตและปัจจุบันเชื่อมโยงเข้าหากัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน จับมือกับผ่านเรื่องราวในชีวิตไปด้วยกัน

รีวิวโดยสำนักพิมพ์ : ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ โดย ฮิงาชิโนะ เคโงะ
ปาฏิหาริย์ร้านชำของคุณนามิยะ..ความน่าสนใจของเล่มนี้ คือตอนนี้มันขึ้นอันดับหนึ่งที่หน้าร้านนายอินทร์ และเป็นผลงานของ ฮิงาชิโนะ เคโงะ นักเขียนแนวสืบสวน แต่เล่มนี้มันเป็นแนวอุ่นๆ ดราม่าๆ มีเรื่องราวเกี่ยวกับกาลเวลาเข้ามาพัวพัน เอาง่ายๆ จุดเริ่มต้นคือ มีหัวขโมย 3 คน หลังจากขโมยของก็หาที่กบดานเพื่อรอจังหวะจะหนี โดยเข้าไปหลบที่ร้านชำนามิยะ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่รกร้างห่างไกลผู้คน
ร้านนี้ในอดีตนอกเหนือจากร้านชำ คือร้านรับปรึกษาปัญหากลุ้มใจ โดยคนที่มีปัญหาจะเขียนจดหมายมาหย่อนไว้ที่ร้าน จากนั้นคุณตาเจ้าของร้านจะหยิบคำถามกลุ้มใจของทุกคนมาเขียนตอบกลับ โดยจะหย่อนคำตอบไว้ถังใส่นมหลังร้าน

คุณผมเเละผู้คนที่สวนกันบนรถไฟสายฮังคิว
ผู้เขียน อาริคาวะ ฮิโระ

ขบวนรถไฟแห่งโชคชะตา ที่จะเยียวยาคุณให้อิ่มเอมด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข

“ระหว่างนั่งรถไฟ ถ้าคุณเงยหน้าขึ้นมาสังเกตรอบข้างบ้าง คุณอาจพบว่ามีปาฏิหาริย์เล็กๆ มากมายซ่อนอยู่ในการเดินทางที่แสนธรรมดา”
.
ผู้หญิงที่นั่งข้างผมบนรถไฟคือคนที่ผมเห็นบ่อยๆ ในห้องสมุด…นี่คือเรื่องราวของผู้คนที่บังเอิญ
พบเจอกันในรถไฟท้องถิ่นซึ่งใช้เวลาเดินทาง ไม่ถึง 15 นาที ชีวิตของผู้โดยสารที่ไม่เคยรู้จักกัน มาก่อนกลับผูกโยงเข้าหากันอย่างน่าพิศวง ก่อเกิดเป็นความสัมพันธ์สุดพิเศษ การพบพานกันในขบวนรถไฟสายนี้ บางครั้งเป็นการพบพานครั้งเดียวในชีวิต และบางครั้งก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ครั้งใหม่ที่จะติดตรึงใจ ไปอีกแสนนาน…
.
ไม่ว่าวันเวลาจะเคลื่อนต่อไปข้างหน้าสักเท่าใด รถไฟฮังคิวก็ยังคงบรรทุกเรื่องราวอบอุ่นหัวใจ ร้อยเรียงให้เกิดเป็นเรื่องราวบทใหม่ วิ่งไปกลับระหว่างสถานีทาคาระซึกะ และสถานีนิชิโนะมิยะคิตะงุจิต่อไปอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย