ไฟศิลป์คือนวนิยายชีวิตของวินเซนต์ แวนโก๊ะ ซึ่ง ดร. กิติมา อมรทัต ได้แปลเป็นภาษาไทย เป็นเรื่องราวแห่งการก้าวเดินบนถนนชีวิตด้วยแรงศรัทธาแห่งศิลปะ ด้วยหัวใจที่ทรหดทำให้เขาเพียรสร้างสิ่งยิ่งใหญ่ทรงคุณค่า ต่อมากลายเป็นแนวทางสำคัญของศิลปะสมัยใหม่ ศิลปินสมัยโพสต์-อิมเพรสชั่นนิสม์ จิตรกรชาวดัตซ์ ผู้มีชีวิตแสนสั้นและเต็มไปด้วยทุกข์ยากแทบจะตลอดอายุ 37 ปีที่กว่าจะกลายเป็นศิลปินเอกของโลก

►►►►► กรุณาอ่านก่อนสั่งซื้อ ◄◄◄◄◄

✔️✔️✔️ หนังสือนำมาลดราคาพิเศษตามสภาพ เช็คสภาพหนังสือประมาณ 50-60 % ไม่ใช่ปีที่พิมพ์ปัจจุบัน สภาพเก่าตามกาลเวลาอาจมีตำหนิ เช่น สีซีด มีรอย แต่รับประกันว่าทุกเล่มอ่านได้ปกติเนื้อหาครบ

✔️✔️✔️ ตรวจสอบให้ดีว่าเป็นเล่มที่ต้องการจริงๆก่อนสั่งซื้อ
กรุณาคิดและตรวจสอบให้ดีว่าหนังสือเล่มที่ต้องการ และตามหาอยู่จริงๆ

✔️✔️✔️ ขณะสั่งซื้อโปรดตรวจสอบชื่อที่อยู่และเบอร์โทรให้ถูกต้อง

✔️✔️✔️ หลังจากสั่งซื้อเข้ามาแล้ว งดยกเลิกและคืนสินค้านะคะ

✦ ลูกค้าใหม่ รบกวนกด “ติดตาม” สำนักพิมพ์ด้วยนะคะ เพื่อไม่ให้พลาดการอัพเดทสินค้าใหม่ๆ และโปรโมชั่นโดนๆทุกๆเดือนค่ะ

✌️ เป็นหนังสือลดราคาตามสภาพค่ะ
✅ รับประกันอ่านได้ เนื้อหาครบ

เนื้อเรื่อง
พบกับเรื่องเล่าว่าด้วยการล่าดินแดนอาณานิคม ตำนานโจรสลัดชื่อก้องโลกเหนือท้องมหาสมทุร ประวัติศาสตร์ยุคล่าอาณานิคม เมื่อตะวันตกยึดครองโลกจุดกำเนิดการล่าอาณานิคมนักเดินเรือผู้พิชิตโลกสเปนกับความพยายามขยายอำนาจศักราชแรกแห่งยุคล่าอาณานิคมโลกใหม่ ที่ทอแสงทางตะวันตกอังกฤษและฝรั่งเศส ตำนานโจรสลัดโลกและโจรสลัดชื่อก้องโลก การค้าและเครื่องเทศ โจรสลัดญี่ปุ่น โจรสลัดจีน นี่คือรวมเรื่องล่าอาณานิคมและโจรสลัดที่ระทึกใจยิ่งกว่านวนิยายซะอีก…

สารบัญ
– ยุคล่าอาณานิคม : เมื่อตะวันตกยึดครองโลก
– ตำนานโจรสลัดโลก

รายละเอียดหนังสือ
ISBN : 9786167071244 (ปกอ่อน) 176 หน้า
ขนาดรูปเล่ม : 143 x 211 x 11 มม.
น้ำหนัก : 220 กรัม
เนื้อในพิมพ์ : ขาวดำ
ชนิดกระดาษ : กระดาษถนอมสายตา
สำนักพิมพ์ : ยิปซี, สนพ.
เดือนปีที่พิมพ์ : –/2010

หนังสือ​ สิบมายาคติอิสราเอล การเปิดเผยความจริงอาจจะไม่เพียงพอที่จะทำให้ชาวโลกตาสว่าง เพราะจำนวนไม่น้อยถูกครอบงำด้วยมายาคติของลัทธิไซออนิสต์ที่ทรงอิทธิพลต่อสื่อและการมอมเมาด้วยภาพลวงตาทั้งหลาย โดยความเป็นจริงแล้วลัทธินี้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ที่จะครอบครองดินแดน ดังนั้นการนำเสนอของหนังสือเล่มนี้อันเป็นข้อโต้แย้งทั้งทางประวัติศาสตร์ ด้วยตรรกวิทยาที่ถูกต้องชัดเจนและมีงานวิจัยสนับสนุนอีกมากมาย จึงเป็นการเพิ่มเติมให้ความรู้ความเข้าใจและเปิดตาชาวโลกที่ถูกมอมเมามาเป็นเวลานาน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือเล่มนี้จะได้รับการศึกษาอย่างจริงจัง และได้รับการเผยแพร่ออกไปในวงกว้าง และด้วยฉันทาคติที่ว่า “โลกทั้งผองพี่น้องกัน” เราก็อาจจะอยู่ร่วมกันด้วนสันติสุข -ศาสตราจารย์ พลโท ดร.สมชาย วิรุฟหผล- ราคา 280 บาท จำหนายโดย HOC BookCafe & Space

คนโง่เป็นคนประเภทที่อันตรายที่สุด

– Carlo M. Cipolla

คนโง่อยู่รอบตัวเรา มีจำนวนมหาศาลเกินคาดคิด และกำลังครองโลกใบนี้
คนโง่ป่วนโลกโดยไร้ผู้นำ ไร้กฎหมายควบคุม ไร้ระเบียบแบบแผน และไร้เหตุผล เพื่อหยุดยั้งความก้าวหน้าและความผาสุกทุกหัวระแหง
ตั้งแต่ในกรุ๊ปไลน์ครอบครัว ห้องประชุมออฟฟิศ โซเชียลมีเดีย แม้กระทั่งบนเก้าอี้ผู้นำประเทศ
ไม่มีทางที่เราจะต่อกรกับพวกเขาได้ (สู้กับคนโง่เหนื่อยกว่าสู้กับโจรนะคุณ!) โลกทั้งใบอาจกำลังเดินลงนรกเพราะเหล่า “ผู้นำโง่”
คาร์โล เอ็ม. ชิโปลลา ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์
ใช้แว่นตาเศรษฐศาสตร์มองคนโง่และปรากฏการณ์ความโง่ที่เป็นมหาภยันตราย ของมวลมนุษยชาติ
แล้วสกัดเป็นหนังสือแสบสันระดับ ‘cult classic’ “กฎพื้นฐานว่าด้วยความโง่เขลา” ห้าประการ ใน
“โง่ศาสตร์” (The Basic Laws of Human Stupidity)

หนังสือ ราคา 120 บาท เจ้าสัวเฉลียว อยู่วิทยา บุรุษผู้พิสูจน์ให้คนทั้งโลกรู้ว่า ลิขิตฟ้า หรือจะสู้มานะตน จำนวนหน้า : 128 หน้า สำนักพิมพ์ : แฮปปี้บุ๊ค ผู้แต่ง : ทศ คณนาพร ขนาด : 14.6 x 20.9 x 0.7 ซม. ประเภทปก : ปกอ่อน เนื้อใน : กระดาษถนอมสายตา พิมพ์ : ขาวดำ นำเสนอตำนานชีวิต คมความคิด ข้อคิดดีๆ ของ “เจ้าสัวเฉลียว อยู่วิทยา” ที่จะเป็นแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ในการสู้ชีวิต และพิสูจน์ในสัจธรรมที่ว่า ลิขิตฟ้า หรือจะสู้มานะตน… สารบัญ ภาคที่ 1 เจ้าสัวเฉลียว อยู่วิทยา เริ่มต้นจากศูนย์สู่มหาเศรษฐีแสนล้าน – ตำนานเครื่องดื่มกระทิงแดง […]

หมวดหมู่ หมวดความรู้ทั่วไป
ราคา 80.00 บาท
บาร์โค้ด 9789744040763
กล่าวถึงประวัติและผลงานสุนทรภู่ ผลงานกวีนิพนธ์,เกร็ดความรู้จากนิราศ การเล่นคำและกวีโวหาร แง่คติธรรมจากนิราศ บทพรรณาโวหาร วิเคราะ์นิราศเมืองแกลง,นิราศพระบาทและอื่นๆ (200 หน้า)

รีวิว bookscape หนังสือ โง่ศาสตร์: กฎพื้นฐานว่าด้วยความโง่เขลา The Basic Laws of Human Stupidity คนโง่เป็นคนประเภทที่อันตรายที่สุด – Carlo M. Cipolla คนโง่อยู่รอบตัวเรา มีจำนวนมหาศาลเกินคาดคิด และกำลังครองโลกใบนี้ คนโง่ป่วนโลกโดยไร้ผู้นำ ไร้กฎหมายควบคุม ไร้ระเบียบแบบแผน และไร้เหตุผล เพื่อหยุดยั้งความก้าวหน้าและความผาสุกทุกหัวระแหง ตั้งแต่ในกรุ๊ปไลน์ครอบครัว ห้องประชุมออฟฟิศ โซเชียลมีเดีย แม้กระทั่งบนเก้าอี้ผู้นำประเทศ ไม่มีทางที่เราจะต่อกรกับพวกเขาได้ (สู้กับคนโง่เหนื่อยกว่าสู้กับโจรนะคุณ!) โลกทั้งใบอาจกำลังเดินลงนรกเพราะเหล่า “ผู้นำโง่” คาร์โล เอ็ม. ชิโปลลา ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ ใช้แว่นตาเศรษฐศาสตร์มองคนโง่และปรากฏการณ์ความโง่ที่เป็นมหาภยันตราย ของมวลมนุษยชาติ แล้วสกัดเป็นหนังสือแสบสันระดับ ‘cult classic’ “กฎพื้นฐานว่าด้วยความโง่เขลา” ห้าประการ ใน “โง่ศาสตร์” (The Basic Laws of Human Stupidity) ราคา 149 บาท […]

ชื่อต้นฉบับ A Little History of Philosophy
ผู้เขียน Nigel Warburton
ผู้แปล ปราบดา หยุ่น, รติพร ชัยปิยะพร
จำนวนหน้า 328 หน้า

หากพระเจ้าดำรงอยู่จริง เหตุใดจึงยอมให้โลกนี้มีความชั่วร้าย?
การโกหกเพื่อช่วยปกป้องเหยื่อจากฆาตกรเป็นเรื่องถูกศีลธรรมหรือเปล่า?
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าตัวคุณที่กำลังอ่านหนังสือเล่มนี้มีตัวตนอยู่จริง หาใช่เพียงจินตนาการ?

ปรัชญาถือกำเนิดจากการตั้งคำถาม คำว่า “นักปรัชญา” (philosopher) มาจากภาษากรีก แปลว่า “รักในความรู้” หนังสือเล่มนี้จะพาคุณย้อนกลับไปสู่ต้นกำเนิดสายธารแห่งปัญญาความรู้ นับตั้งแต่โสเครตีส ผู้มุ่งมั่นตั้งคำถามและเลือกยอมตายแทนที่จะหยุดคิดค้นหาความจริงของสรรพสิ่ง ไล่เรียงมาถึงเรื่องราวการเดินทางของปรัชญาที่แทรกซึมไปตามศาสตร์ต่างๆ ทั้งแนวคิดปรัชญาการเมืองที่นำไปสู่การปฏิวัติสะเทือนโลกอย่างมาร์กซิสต์ ทฤษฎีจิตวิเคราะห์ของฟรอยด์ คำกล่าวอันโด่งดังที่หักล้างความเชื่อทางศาสนาอย่าง “พระเจ้าตายแล้ว” หรือประเด็นคลาสสิกในโลกเทคโนโลยีอย่าง “คอมพิวเตอร์คิดได้หรือไม่”

หนังสือเล่มนี้จะทลายกำแพงที่กั้นขวางปรัชญาไว้เพียงในโลกของนักปรัชญา และแสดงให้เห็นว่าปรัชญาเปรียบดัง “กุญแจ” สู่ความจริงแห่งชีวิต ทว่าเบื้องหลังประตูบานนี้หาใช่คำตอบตายตัว แต่คือพื้นที่กว้างใหญ่ที่เปิดให้เราตั้งคำถาม ถกเถียงท้าทาย และแลกเปลี่ยนความคิดด้วยเหตุผล เพื่อสืบทอดจิตวิญญาณแห่ง “ปรัชญา” และสานต่ออนาคตแห่ง “ปัญญา” ของมนุษย์

From the author of Steve Jobs and other bestselling biographies, this is the astonishingly intimate story of the most fascinating and controversial innovator of our era—a rule-breaking visionary who helped to lead the world into the era of electric vehicles, private space exploration, and artificial intelligence. Oh, and took over Twitter.

When Elon Musk was a kid in South Africa, he was regularly beaten by bullies. One day a group pushed him down some concrete steps and kicked him until his face was a swollen ball of flesh. He was in the hospital for a week. But the physical scars were minor compared to the emotional ones inflicted by his father, an engineer, rogue, and charismatic fantasist.

His father’s impact on his psyche would linger. He developed into a tough yet vulnerable man-child, prone to abrupt Jekyll-and-Hyde mood swings, with an exceedingly high tolerance for risk, a craving for drama, an epic sense of mission, and a maniacal intensity that was callous and at times destructive.

At the beginning of 2022—after a year marked by SpaceX launching thirty-one rockets into orbit, Tesla selling a million cars, and him becoming the richest man on earth—Musk spoke ruefully about his compulsion to stir up dramas. “I need to shift my mindset away from being in crisis mode, which it has been for about fourteen years now, or arguably most of my life,” he said.

It was a wistful comment, not a New Year’s resolution. Even as he said it, he was secretly buying up shares of Twitter, the world’s ultimate playground. Over the years, whenever he was in a dark place, his mind went back to being bullied on the playground. Now he had the chance to own the playground.

For two years, Isaacson shadowed Musk, attended his meetings, walked his factories with him, and spent hours interviewing him, his family, friends, coworkers, and adversaries. The result is the revealing inside story, filled with amazing tales of triumphs and turmoil, that addresses the question: are the demons that drive Musk also what it takes to drive innovation and progress?